จากกรณีนายนนท์นริศ เนตรประชา อายุ 35 ปี และ น.ส.พรศิริ เพ็งไร่ขิง อายุ 29 ปี อุ้มลูกน้อยซึ่งพิการต้องใส่ท่อช่วยหายใจที่คอ ออกอุบายให้ น.ส.รัตนา วิชาศรี อายุ 25 ปี ขับรถเก๋งไปส่งมราสถานีขนส่ง จากนั้นได้ใช้ปืนจี้ชิงรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีดำ ทะเบียน ขจ 2151 ขอนแก่น หลบหนีไป กระทั่งไปจนมุมที่ จ.มหาสารคาม เหตุเกิดภายในปั๊มน้ำมัน ริมถนนมิตรภาพ บ้านเกิ้ง ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว อุตส่าห์ช่วย! สาวอาสาขับรถไปส่ง “พ่อแม่ลูกพิการ” กลับถูกปืนจี้ชิงเก๋งขับหนี

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 22 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน ซึ่งสามารถบันทึกภาพ ขณะที่ นายนนท์นริศ พร้อม น.ส.พรศิริ อุ้มเด็กยืนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เพื่อดักรอ น.ส.รัตนา จากนั้นทั้ง 2 คน ได้เข้าไปพูดคุยเพื่อวานให้ส่งสถานีขนส่งบ้านไผ่ ก่อนที่จะก่อเหตุใช้อาวุธปืนสั้นลูกซองไทยประดิษฐ์ จี้ชิงรถเก๋ง พร้อมเงินสด โทรศัพท์มือถือ ก่อนหลบหนีไป แต่สุดท้ายไปจนมุมที่ จ.มหาสารคาม

โฉมหน้านายนนท์นริศ และ น.ส.พรศิริ ที่ก่อเหตุออกอุบายหลอกจี้ชิงรถเก๋งของ น.ส.รัตนา

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ทั้ง 2 คน ได้ก่อเหตุชิงรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง จากที่พุทธมณฑลสาย 5 จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาประสบอุบัติเหตุรถยนต์ เสียหลักลงร่องเกาะกลางถนนมิตรภาพ ในพื้นที่ อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น หลังจากนั้นก็มาก่อเหตุจี้ชิงรถเก๋งของ น.ส.รัตนา เบื้องต้นตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับผู้ต้องทั้ง 2 คน ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์, ร่วมกันมีอาวุธปืน, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ด้าน น.ส.รัตนา เล่าว่า ปกติตนจะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากมาโดย ตลอด แต่ไม่คิดว่าการช่วยเหลือครั้งนี้ จะทำให้ตนเองต้องถูกมิจฉาชีพ ที่แฝงตัวในคราบคนตกทุกข์ขอความช่วยเหลือ ทำให้ต่อไปตนจะต้องระวังให้มากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน