ตร.คุมตัวโจรสาว อดีตพนักงานเซเว่น ทำแผนชิงเงินสด 2.3 ล้าน เร่งตามส่วนที่เหลือ

จากกรณีที่คนร้ายใช้อาวุธมีดบุกจี้ชิงทรัพย์ เซเว่นอีเลฟเว่น สาขาชุมชนบ้านโพธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เงินสดไป 2,347,000 บาท ต่อมาตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วรจนา ช่องกลาง อายุ 25 ปี โดยจับกุมตัวได้ภายในบ้านพักเลขที่ 138/1 บ้านด่านคนคบ ม.7 ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พร้อมตามยึดเงินสดของกลางที่ คนร้ายชิงไปได้ จำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องหาซุกซ่อนเอาไว้ในบ่อเกราะหลังบ้านพักของตนเอง ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.ค. พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.จังหวัดนครราชสีมา พร้อม ตำรวจชุดสืบสวน สภ.จอหอ ได้นำตัว น.ส. ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในที่เกิดเหตุ โดยจุดแรก ที่หน้าเทศบาลตำบลบ้านโพธิ์ ฝั่งตรงข้าม ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 50 เมตร เป็นจุดที่ น.ส.วรจรา ขี่รถจยย. ฟีโน่ สีฟ้า-ขาว เลขทะเบียน จกว 29 นครราชสีมา มาจอดดูลาดเลาประมาณ 30 นาที ก่อนสวมเสื้อผ้าและหมวกกันน็อกอำพรางใบหน้า พร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้สีชมพูก่อนเดินข้ามถนนเข้าไปในร้านเซเว่น

ต่อมาจุดที่2 ที่หน้าเคาน์เตอร์ ภายในร้าน น.ส.วรจนา ได้ทำทีมาซื้อบุหรี่ 1 ซอง หลังจากพนักงานหยิบบุหรี่ให้แล้ว จึงเดินอ้อมไปในจุดเคาท์เตอร์ที่พนักงานอยู่ พร้อมกับชักมีดสปาต้า จี้ข่มขู่พนักงานเซเว่น 3 คนให้หลีกทางไป จากนั้น น.ส.วรจนา รีบเปิดเลิ้นชักหาเงิน พร้อมก้มลงไปหยิบเอาเงินสดภายในเซฟ ที่เก็บเงินจากการจ่ายเคาท์เตอร์เซอวิส และเงินจากลูกค้ามาซื้อของ ซึ่งทางผู้จัดการร้านแจ้งว่าคนร้ายได้เงินไปจำนวนกว่า 2.3 ล้านบาท

จากนั้น น.ส.วรจนา วิ่งหนีไปที่รถจยย.ก่อนที่จะขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยระหว่างทางได้นำอาวุธมีด เสื้อผ้า และหมวกกันน็อคโยนทิ้ง ส่วนเงินที่ชิงมาได้ส่วนใหญ่ถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในบ่อเกรอะหลังบ้านพัก เลขที่ 138/1 บ้านด่านคนคบ หมู่ 7 ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนจนกระทั่งสามารถตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก

ทั้งนี้จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า น.ส.วรจนา วางแผนก่อเหตุเพียงลำพัง เนื่องจากเคยเป็นอดีตพนักงานของเซเว่นสาขาดังกล่าว จึงรู้ความเคลื่อนไหวเป็นอย่างดี และรู้ว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ช่วงสิ้นเดือนจะมีเงินรายได้จากการขายสินค้าเก็บไว้ภายในร้านเป็นจำนวนมาก ประกอบกับผู้ต้องหาตกงาน มีหนี้สิน และยังต้องเลี้ยงดูลูกน้อย ทำให้ผู้ต้องหาตัดสินใจก่อเหตุขึ้น

โดยผู้ต้องหาอ้างว่า เงินบางส่วนได้นำเงินไปใช้หนี้ที่ยืมมา จำนวน 70,000 บาท และนำไปเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของตนเอง จำนวน 80,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปยึดเงินของกลางทั้งหมด ทั้งจากที่ค้นเจอในบ่อเกรอะ เงินในบัญชีธนาคาร และเงินที่ไปจ่ายให้เจ้าหน้า รวมเงินที่สามารถยึดคืนมาได้ จำนวน 1,959,990 บาท ซึ่งขณะนี้จำนวนเงินยังไม่ตรงกับที่ทางผู้จัดการร้านเซเว่นฯ ระบุว่า เงินได้หายไปจำนวนกว่า 2.3 ล้านบาท โดยจะทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน