โจรบุกเดี่ยวใช้มีดสปาต้า ปล้นร้านสะดวกซื้อ ทำทีขอซื้อบุหรี่ ก่อนจี้พนักงานบังคับ เปิดเซฟกวาดเงินสดไปกว่า 2 ล้าน ตร.เร่งสืบสวน คาดเป็นคนในรู้ความเคลื่อนไหว มุมกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี
ปล้นร้านสะดวกซื้อ / เมื่อวันที่ 1 ก.ค. พ.ต.ท.ศุภเชษฐ์ นวจินดาพงศ์ สว.(สอบสวน) สภ.จอหอ รับแจ้งเหตุ มีชายข่มขู่จะทำร้ายพนักงานร้านสะดวกซื้อ ที่ชุมชนบ้านโพธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมกับปล้นเงินไปจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด พ.ต.อ.ปวริศ บุญสุทธิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นกลางชุมชน และอยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยมี พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สภ.จอหอ เข้าให้ข้อมูลและร่วมตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสายตรวจ
เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายเป็นชายทำทีเข้ามาซื้อของในร้านสะดวกซื้อเพียงลำพัง แล้วใช้มีดจี้ขู่จะทำร้ายร่างกายพนักงานร้าน ก่อนจะบังคับให้ส่งเงินในเซฟประมาณ 2 ล้านบาท ให้ทั้งหมด เมื่อได้เงินก็รีบเดินออกไปแล้วข้ามถนนบริเวณสี่แยกหน้าเทศบาลตำบลบ้านโพธิ์ ไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ห่างออกไป ก่อนจะขับหลบหนีไปอย่างลอยนวล ซึ่งหลังรับทราบรายงานเบื้องต้น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้พูดคุยกับผู้จัดการร้านฯ ดูจุดติดตั้งตู้เซฟ
ส่วนสาเหตุที่ได้เงินไปจำนวนมากนั้น ผู้จัดการร้านฯ แจ้งว่า ตรงกับช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ธนาคารปิด พนักงานร้านจึงยังไม่ได้ส่งเงินเข้าธนาคาร จากนั้นขอดูกล้องวงจรปิดภายในร้าน และสอบถามพนักงานถึงพฤติการณ์การก่อเหตุ ก่อนจะเดินตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายนอกที่อยู่ใกล้ๆ และกล้องที่ติดตั้งบนเสาไฟบริเวณสี่แยกบ้านโพธิ์
พ.ต.อ.ปวริศ บุญสุทธิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งติดตามกล้องวงจรทุกจุด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไป เพื่อขยายผลการสืบสวน จากนั้นให้รีบรายงานให้ทราบโดยเร็ว
ส่วนพยานบุคคลตอนนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจแล้ว ก็ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงาน ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวภายในร้าน และรู้มุมกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี ทำให้เหิมเกริมก่อเหตุ และเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่อีกจุดอย่างชะล่าใจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
ด้านนายเอ (นามสมมุติ) ประชาชนที่มีบ้านอยู่ติดกับร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยครั้งนั้นคนร้ายมาคนเดียวเหมือนครั้งนี้ แต่ใช้ปืนจี้ข่มขู่ปล้นเอาเงินไป ซึ่งโดยส่วนตัวแม้ว่าที่หน้าร้านสะดวกซื้อ จะมีตู้แดงของสาวตรวจบ้านโพธิ์ สภ.จอหอ ติดตั้งอยู่ แต่ก็รู้สึกไม่ปลอดภัยที่มีเหตุการณ์ปล้นทรัพย์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ต่อมาเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ปวริศ บุญสุทธิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อม พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒ ผกก. สภ.จอหอ อ.เมืองฯ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่ ภูธรจังหวัดและชุดสืบภาคเพื่อเร่งไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยานบุคคลพนักงานหญิงร้านสะดวกซื้อ
พ.ต.อ.ปวริศ เปิดเผยว่า ทราบข้อมูลคนร้ายเป็นชาย ถืออาวุธมีดบุกเดี่ยว จี้บังคับพนักงานให้เปิดตู้เซฟวางอยู่ที่ใต้เคาท์เตอร์ ก่อนกวาดเงินภายในตู้ไปกว่า 2 ล้านกว่าบาท ใส่ในกระเป๋าสะพายสีชมพูที่เตรียมมา เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30 น.ที่ผ่านมา
จากนั้นคนร้ายวิ่งออกไปขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามหลบหนีไปได้ มีภาพกล้องวงจรปิดจับภาพได้อย่างชัดเจน สำหรับรูปพรรณคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20-30 ปี รูปร่างสันทัด สวมเสื้อกันหนาวสีเลือดหมู กางเกงขาสั้นสามส่วน รองเท้าผ้าใบ และสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีน้ำเงิน
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ขณะเกิดเหตุมีพนักงานภายในร้าน 3 คน ระบุพฤติกรรมคนร้ายวางอุบายทำทีมาขอซื้อบุหรี่ เมื่อสบโอกาสพนักงานในร้านเผลอ ก็หยิบมีดสปาต้า ยาวประมาณ 1 ฟุต จี้ข่มขู่พนักงานหญิงสาว ให้ออกมานอกเคาน์เตอร์ จากนั้นคนร้ายเดินเข้าไปภายในเคาน์เตอร์ หยิบกุญแจไปเปิดตู้เซฟหลังเคาน์เตอร์ โกยหยิบเงินสดใส่กระเป๋าสะพาย ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 2 นาที ได้เงินไปกว่า 2 ล้านบาท