เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ม.ค. ร.ต.อ.รณชัย กาญจนภักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งมีพระสงฆ์ผูกคอในกุฏิวัดเชิงคีรี หมู่ 5 ต.ปากแพรก อ.สวี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อม พ.ต.ท.สายัญห์ จันทรมาศ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตสวี ตรวจสอบพบพระสงฆ์ชาวบ้านญาติโยมจำนวนหนึ่งเฝ้ามุงดูเหตุการณ์อยู่หน้ากุฏิปูนชั้นเดียวขนาดเล็กปลูกอยู่ริมเชิงเขาด้านในพบศพพระสงฆ์ ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ พระสานนท์ ดำคำ ผูกคอด้วยเชือกถักสีเหลืองมรณภาพอยู่กลางห้องสภาพนุ่งสบงสวมอังสะอยู่ในท่าคุกเข่า คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
ตรวจสอบในกุฏิพบเครื่องใช้ส่วนตัววางอยู่เกลื่อนทั่วห้อง และยังพบยารักษาโรคมะเร็งจากโรงพยาบาลสุราษฏร์ธานีบรรจุอยู่ภายในถุงหิ้ววางอยู่ใกล้ศพติดกับเตียงนอนจำนวนหนึ่ง ต่อมาพระสมปอง ดำคำ พระน้องชายอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เล่าให้ฟังว่า พระสานนท์บวชเป็นพระมาแล้ว 11 พรรษาแต่ได้จำพรรษาเป็นพระลูกวัดอยู่ที่วัดเชิงคีรี 2 ปีเท่านั้น ซึ่งต่อมาได้ทราบว่าเป็นมะเร็งที่ลำคอระยะสุดท้าย ตนเองก็มั่นเข้ามาเยี่ยมดูแลอย่างใกล้ชิดที่กุฏิเป็นประจำ จนกระทั่งเช้าวันเดียวกันตนพบพระน้องชายเป็นครั้งสุดท้ายตอนประมาณ 06.00 น.และกลับมาแวะหาอีกครั้งตอน 08.45 น. หลังฉันเช้าเสร็จแต่พบว่าผูกคอมรณภาพแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.สายัญห์ เปิดเผยว่า พระสานนท์ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เดินทางไปรักษามะเร็งที่ศูนย์โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเป็นประจำ ก่อนคิดสั้นคงจะเกิดอาการเครียดเนื่องจากไม่อยากเป็นภาระจึงตัดสินใจผูกคอหนีโรคร้ายดังกล่าว
ส่วน น.ส.สุวรรณี แก้วมณี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังรอ พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพพระสงฆ์ ซึ่งเมื่อออกมาบังคับใช้แล้วสามารถที่จะดูแลด้านสุขภาพและโภชนาการของอาหารพระภิกษุสงฆ์ได้มากกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจของพุทธศาสนิกชนเองด้วยว่าอาหารประเภทไหนเหมาะสมกับพระภิกษุสงฆ์เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะเดียวกันด้านพระภิกษุสงฆ์เองก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธรับบิณฑบาตของพุทธศาสนิกชนที่นำอาหารมาถวายได้เช่นกันจึงเป็นสาเหตุหนึ่งในการสุ่มเสี่ยงของการเกิดโรคภัยต่างๆได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะอยู่ในที่เกิดเหตุภายในวัดดังกล่าวมีสุนัขภายในวัดจำนวนหลายตัวได้ส่งเสียงเห่าหอนเป็นระยะสร้างความสะพึงกลัวขนลุกขนพองให้กับชาวบ้านที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุเป็นอย่างมาก
