จากกรณีมีกระแสข่าวความสัมพันธ์ระหว่างครูสาวกับนักเรียนชาย ม.ปลายของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อ่านข่าว : ลือหึ่งครูสาวแอบมีเซ็กซ์กับ นร.หนุ่มในโรงอาหาร ร.ร.เมืองคอน ผอ.บินด่วนสาวเรื่องฉาว

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. นางละอองศรี (ขอสงวนนามสกุล) ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ได้เรียกประชุมผู้บริหารและครูอาจารย์ภายในโรงเรียนเพื่อเร่งตรวจสอบที่มาของข้อมูลเรื่องนี้ เนื่องจากก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงกับชื่อเสียงของโรงเรียนที่เป็นแหล่งผลิตนักกีฬา โดยมีการระบุกันว่า ในกรณีดังกล่าวครูกับลูกศิษย์อาจจะมีการนั่งคุยกันสองต่อสองภายในโรงอาหาร และมีนักเรียนคนอื่นไปเห็น กระทั่งมีการนำมาร่ำลือกัน

ขณะที่การตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบว่ามีหลักฐาน หรือพยานใดๆ ที่ระบุได้อย่างชัดเจน ครูอาจารย์ภายในโรงเรียนเองนั้น ยังเชื่อว่าน่าจะเป็นพฤติการณ์ของนักเรียนวัยรุ่นเช่นปกติทั่วไปที่กำลังคึกคะนองแล้วทำให้เกิดการพูดต่อๆกันอย่างสนุกปากมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง ส่วนโรงอาหารที่ระบุว่า เป็นที่เกิดเหตุนั้นไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ เนื่องจากมีสภาพเปิดโล่งใต้อาคารเรียน ไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่ปรากฎเป็นข่าว

ภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ นางละออศรีได้เชิญผู้สื่อข่าวเข้าทำการตรวจสอบบริเวณโรงอาหารและภายในโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการระบุว่า ครูสาวและนักเรียนมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งมีการเปิดห้องต่างๆ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวดูเกือบทุกแห่งที่เป็นจุดที่มีการลือกันถึงเรื่องดังกล่าว

นางละออศรี กล่าวว่า ตนเดินทางมาสะสางเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน หลังไปราชการที่ กทม. และมีการประชุมผู้ประชุมผู้บริหารและครูอาจารย์เพื่อหาข้อเท็จจริง ซึ่งที่มีข่าวออกมาว่าในคืนวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. แต่ในความเป็นจริงตอนนั้นมีนักกีฬาประเภทกรีฑาได้ใช้สถานที่ด้านข้างโรงอาหารประชุมกันอยู่ ซึ่งเป็นที่โล่งแจ้ง พอมีข่าวออกมาทางรองฝ่ายวิชาการได้เรียกทุกฝ่ายมาพูดคุย ก็ไม่มีข้อมูลว่ามีความสัมพันธ์อะไรกันได้เลย

ผอ.โรงเรียน กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังได้สอบถามข้อมูลจากนักเรียนและคนที่อยู่ใกล้โรงอาหาร ก็ไม่มีใครยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งหลังเกิดเรื่องก็ทำให้เกิดความเสียหายต่อโรงเรียน แล้วใครจะมารับผิดชอบกับความเสียหายในครั้งนี้ จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่ทำเรื่องนี้ให้เป็นข่าวออกมารับผิดชอบเพื่อเรียกศักดิ์ศรีของโรงเรียนคืนมา ไม่ใช่เอาแต่สนุกปากโดยไร้ข้อเท็จจริง ส่วนครูหญิงคนนั้นได้ลาออกไปแล้ว โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการเป็นข่าวทำลายชื่อเสียงโรงเรียน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน