วันที่ 24 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า ผู้คนที่ใช้สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ในมาเลเซีย ช่วง 11 วันที่ผ่านมาต่างวิตกถึงความปลอดภัย หลังตำรวจแถลงผลการชันสูตรพลิกศพนายคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ที่ถูกลอบสังหารกลางสนามบินแห่งนี้ เมื่อ 13 ก.พ. ว่าพบสารพิษบนใบหน้าและดวงตาของนายจองนัม เป็นสารเคมีทำลายประสาท วีเอ็กซ์ เนิร์ฟ เอเจนต์ ซึ่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จัดให้เป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงในอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี

เบื้องต้นยังไม่พบผู้ที่สัญจรไปมาหรือเจ้าหน้าที่ประจำในสนามบินมีอาการป่วย แต่ตำรวจระบุว่า หญิงผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งใน 2 คนมีอาการป่วย และอาเจียนหลังก่อเหตุ คาดว่าได้รับพิษเข้าไปเช่นกัน แม้ว่าภาพจากวงจรปิดจะเห็นว่าหญิงทั้งสองรีบวิ่งไปล้างมือหลังก่อเหตุ

(AP Photo)

พล.ต.อ.คาห์ลิด บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย กล่าวว่า วีเอ็กซ์ เนิร์ฟ เอเจนต์ เป็นทั้งสารพิษผิดกฎหมาย และเป็นอาวุธเคมีร้ายแรง เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนหาต้นตอ รวมถึงวิธีการที่คนร้ายนำสารพิษดังกล่าวเข้ามาในประเทศ

ด้านนายโรฮาน กุนารัตนะ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย ความรุนแรงทางการเมืองและการก่อการร้ายในสิงคโปร์ให้ความเห็นว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะลักลอบนำเข้าสาร วีเอ็กซ์ด้วยการใส่กระเป๋าหรือสัมภาระของเจ้าหน้าที่ทางการทูต เพราะเป็นสิ่งของที่ไม่ต้องสำแดง และไม่ต้องผ่านการตรวจสอบเข้มงวดเหมือนบุคคลทั่วไป

นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังมีโรงงานผลิตสารวีเอ็กซ์ในอดีต และเคยมีกรณีเจ้าหน้าที่ทางการทูตลักลอบนำของต้องสงสัยว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงเข้าประเทศอื่นๆ พฤติกรรมของเกาหลีเหนือในปัจจุบันถือเป็นภัยคุกคามภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศที่มีหน่วยข่าวกรองเกาหลีเหนือเข้าไปประจำการ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย

AP PHOTO

นายอี อิลวู นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงจากประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เกาหลีเหนือนั้นมีอาวุธเคมีแบบวีเอ็กซ์เก็บไว้จำนวนมาก เนื่องจากใช้ต้นทุนต่ำในการผลิต

สอดคล้องกับกับรายงานของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เมื่อปี 2557 ระบุว่า เกาหลีเหนือเริ่มผลิตอาวุธเคมีตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 80 มีโรงงานอยู่ทั่วประเทศ ปัจจุบัน น่าจะมีอาวุธเคมีอยู่กว่า 5,000 ตัน!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน