ปูตินตรงเข้าซีเรีย ฝ่าแนวศึก สหรัฐ-อิหร่าน พบปธน.อัสซาด

ปูตินตรงเข้าซีเรียเอพี รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางเยือนซีเรีย โดยไม่ได้แจ้งหมายล่วงหน้า อีกทั้งแถลงการณ์ไม่เอ่ยถึงสถานการณ์ในอิหร่านที่อยู่ใกล้เคียง ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคนี้ จากการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน หลังเหตุโดรนลอบสังหารนายพลคนสำคัญ กาซิม สุไลมานี

นายปูตินเดินทางมาพบนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย พันธมิตรคนสำคัญที่ทำให้รัสเซียส่งทหารและอาวุธเข้าร่วมรบสงครามกลางเมืองในซีเรีย ตั้งแต่ปี 2558 ช่วงที่รัฐบาลซีเรียเพลี่ยงพล้ำเกือบพ่ายแพ้ จนฟื้นคืนกลับมาได้ โดยมีนายพลสุไลมานีของอิหร่าน เป็นแนวร่วม ส่งกองกำลังนักรบที่อิหร่านหนุนหลังเข้ามาช่วย และเผชิญหน้ากับสหรัฐที่ส่งกองกำลัง 600 นายเข้ามาซีเรีย

ปูตินตรงเข้าซีเรีย

Russian President Vladimir Putin, center left, in a meeting with Syrian President Bashar Assad, in Damascus, Syria on Tuesday, Jan. 7, 2020. (Syrian Presidency via AP)

การเยือนซีเรีย ระหว่างเกิดสงครามครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของนายปูติน สอดคล้องกับสถานการณ์ที่รัสเซียพยายามช่วยรัฐบาลซีเรียบุกยึดจังหวัดอิดลิบ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกบฏ

Russian President Vladimir Putin and Syrian President Bashar Assad, visiting an orthodox cathedral for Christmas, in Damascus, Syria, Tuesday, Jan. 7, 2020. (Syrian Presidency via AP)

นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า นายปูตินและนายอัสซาด พบกันที่ศูนย์บัญชาการทางทหารของรัสเซียในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เพื่อรับฟังสถานการณ์สู้รบล่าสุด นายปูตินกล่าวว่า การฟื้นฟูบูรณะซีเรียและผนวกพรมแดน เป็นเส้นทางยาวไกล

Russian President Vladimir Putin and Syrian President Bashar Assad, during a visit to the Umayyad Mosque in Damascus, Syria, Tuesday, Jan. 7, 2020.

ผู้นำทั้งสองยังเยือนมัสยิดอุเมย์ยาด ฝั่งเมืองเก่า แลนด์มาร์กของเมืองหลวงซีเรีย และชมสุสานของ จอห์น เดอะ แบปติสต์ ผู้อุทิศตนให้ทั้งชาวคริสต์และชาวมุสลิม นอกจากนี้นายปูตินยังแสดงความยินดีกับทหารรัสเซียในช่วงวันหยุดคริสต์มาสของนิกายออร์โธดอกซ์ ที่มหาวิหารในกรุงดามัสกัส

สำหรับสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมา 9 ปี นับจากปี 2554 ทำให้ชาวซีเรียอพยพย้ายจากบ้านเรือนแล้ว 11 ล้านคน ในจำนวนนี้ 5 ล้านคนอพยพออกนอกประเทศ

…………….

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน