บีบีซีรายงานวันที่ 22 มิ.ย. ว่า มัสยิดใหญ่แห่งอัล-นูรี ในเมืองโมซุล โบราณสถานสำคัญของประเทศอิรัก ซึ่งหัวหน้ากองกำลังไอเอสเคยใช้เป็นที่ประกาศทำศึกก่อตั้งรัฐอิสลาม เมื่อปี 2557 ถูกระเบิดทำลายไม่มีชิ้นดี ขณะที่ไอเอสแถลงผ่านสำนักข่าวอมัคของตนเองว่า กองทัพสหรัฐอเมริกาเป็นฝ่ายทิ้งระเบิดทำลาย แต่ทางการอิรักแถลงว่าเป็นฝีมือของไอเอสที่พ่ายแพ้เสียเมือง
นายไฮเดอร์ อัล-อบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก กล่าวว่า การที่ไอเอสระเบิดทำลายมัสยิดสำคัญแห่งนี้เท่ากับประกาศความพ่ายแพ้อย่างเป็นทางการ
เหตุการณ์มัสยิดแห่งนี้ถูกทำลายเกิดขึ้นหลังกองกำลังอิรักรุกเข้ายึดเมืองโมซุลคืนจากไอเอส ในตำแหน่งที่ห่างจากมัสยิด 50 เมตร พล.ต.โจเซฟ มาร์ติน ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพสหรัฐ กล่าวว่า น่าเสียดายอย่างยิ่งที่สมบัติล้ำค่าของเมืองโมซุลและของประเทศอิรักถูกทำลายโดยฝีมือไอเอสเช่นนี้
“นี่เป็นการก่ออาชญากรรมต่อพลเมืองโมซุลและต่อชาวอิรักทั้งมวล และเป็นตัวอย่างหนึ่งว่าทำไมองค์การโหดร้ายนี้ต้องถูกปราบปราม” พล.ต.มาร์ตินกล่าว
อาบู บักร์ อัล แบกแดดี ประกาศทำศึกสร้างรัฐอิสลามที่มัสยิดแห่งนี้
ด้านบีบีซีรายงานวิเคราะห์ว่า การที่ไอเอสระเบิดมัสยิดสำคัญของนิกายสุหนี่ ทั้งที่อาบู บักร์ อัล แบกแดดี เคยใช้เป็นสถานที่ประกาศทำศึกสะท้านโลกเมื่อ 3 ปีก่อน เกิดขึ้นในช่วงกองทัพฝ่ายรัฐบาลอิรักรุกหนักในการทวงคืนเมืองโมซุล ตามปฏิบัติการที่ดำเนินมานาน 9 เดือน ดังนั้นอาจทำด้วยความโกรธแค้น ในจังหวะที่พ่ายแพ้ก่อนจะทิ้งเมืองไป
กรณีที่ไอเอสโยนว่าเป็นฝีมือกองทัพสหรัฐ ดูจะไม่สมเหตุสมผล แต่การรักษาวัฒนธรรมและมรดกทางศาสนาในช่วงเวลานี้ก็ไม่ได้เป็นหลักสำคัญของฝ่ายใดเลยในการทำศึกครั้งนี้
