เมื่อวันที่ 10 ส.ค. เทเลกราฟรายงานว่า กัปตันเรือสำราญต้องงัดมาตรการอำพรางตัวจากโจรสลัดอย่างระทึก ด้วยการให้ผู้โดยสารหลายพันชีวิตยุติงานสังสรรค์บนเรือชั่วคราวเป็นเวลา 10 วันเพื่อหลอกให้โจรสลัดตายใจว่าเรือลำนี้เป็นเรือร้าง ไม่มีผู้โดยสาร

เหตุเกิดกับเรือสำราญหรู ซี ปรินเซส ขณะมีแขกโดยสารอยู่บนเรือดังกล่าวกว่า 1,900 คนโดยผู้โดยสารต้องจ่ายเงินสูงถึง 30,000 ปอนด์หรือประมาณกว่า 1.2 ล้านบาทเพื่อเดินทางกับเรือหรูดังกล่าวเป็นเวลา 104 วัน

ผู้โดยสารบนเรือได้รับการร้องขอจากทางกัปตันให้งดกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันตกดินเป็นเวลา 10 ไม่ว่าจะเป็นการจัดปาร์ตี้บนดาดฟ้าเรือ บาร์และภาพยนตร์กลางแจ้งก็ต้องงด จนกระทั่งปิดไฟในยามค่ำคืน เนื่องจากผู้โดยสารทุกคนต้องเข้าร่วมการฝึกซ้อมหลบภัยจากโจรสลัด

มาตรการดังกล่าวใช้ระหว่างที่เรือล่องอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทะเลอาหรับ อ่าวเอเดน และคลองสุเอซ ซึ่งเป็นการเดินทางในครึ่งแรกของเส้นทางจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียและกำหนดเทียบท่าที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

The Sea Princess

น.ส.คาโรลิน ยาซินสกี้ หนึ่งในผู้โดยสารเรือสำราญลำดังกล่าวระบุว่านายเกนนาโร อาร์มา กัปตันเรือกล่าวขอโทษกับการแจ้งเตือนให้ผู้โดยสารทุกคนทราบถึงภัยอันตรายและต้องเตรียมพร้อมหากมีการโจมตีจากโจรสลัด

นอกจากนี้ยังอธิบายเพิ่มอีกว่าสิ่งที่แขกบนเรือต้องปฏิบัติตามหากถูกโจมตีจริงๆ โดยให้ผู้โดยสารที่อยู่ช่วยกันล็อกประตูเชื่อมกับระเบียงเรือ ล็อกประตูใหญ่ที่เชื่อมกับห้องโดยสาร นอกจากจะให้ผู้โดยสารรีบกลับไปที่ห้องพักแล้ว ยังมีคำแนะนำให้ผู้โดยสารหาที่จับให้มั่นคงรวมไปถึงนั่งบนพื้นในกรณีกัปตันต้องหันหัวเรือหนีโจรสลัด อีกทั้งยังร้องขอให้ผู้โดยสารทุกคนช่วยกันสังเกตเรือลำอื่นๆที่แล่นมุ่งหน้ามาอย่างผิดวิสัย

โฆษกของบริษัทที่ให้บริการเรือสำราญออกมาระบุว่า เรือลำดังกล่าวไม่พบเหตุการณ์ใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยโจรสลัด แต่มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน