จากกรณีโลกโซเชียลมีเดียได้แชร์ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 พ.ย.59 เวลาประมาณ 12.30 น. มีรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน ขับชนเด็กชายอายุประมาณ 5 ขวบจนร่างกระเด็นไปตามพื้นถนนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทราบชื่อเด็กคนดังกล่าวต่อมา คือด.ช.นัท (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านขายของชำในเขตพื้นที่หมู่ 6 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยมีคลิปหญิงสูงวัยลงมาจากรถเข้ามาดูอาการเด็ก ก่อนที่จะมีพลเมืองดีขับผ่านมาเห็นเหตุการณ์ และลงมาช่วยเหลือ โดยหญิงคนดังกล่าวได้บอกพลเมืองดีว่าให้รีบนำเด็กส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะรีบขึ้นรถขับหนีออกจากที่เกิดเหตุออกไปอย่างรวดเร็ว จนขณะนี้ผ่านไป 3 วัน คู่กรณียังไม่มีการติดต่อกลับมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
โพสต์โดย อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V4. บน 14 พฤศจิกายน 2016
ล่าสุดเวลา 10.30 น.วันที่ 18 พ.ย. พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม น.ส.ปนัสยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี คู่กรณีที่ขับรถชนเด็ก ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยน.ส.ปนัสยาให้เหตุผลในการหลบหนีครั้งนี้ว่า วันนั้นได้ลงมาดูเด็กแล้ว ปรากฏว่าร้องไห้โยเยไม่ยอมไปโรงพยาบาล เนื่องจากไม่เคยเห็นหน้าตน ประกอบกับตนตกใจมากที่เห็นเลือดเต็มใบหน้าของเด็กชาย ทำให้ตนตัดสินใจวิ่งขึ้นรถหลบหนี
จากนั้นได้เชิญนายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เป็นพ่อ และด.ช.นัท มาดูตัว โดยนายสมชายเปิดเผยว่า ครอบครัวของตนไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายที่ป้ามามอบตัวก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว ป้าแกเองก็ลำบากหาเช้ากินค่ำ เข้าใจชีวิต และเมื่อได้คุยกันสอบถามไปมา กลายเป็นญาติห่างๆกันด้วย จึงขอยืนยันว่าไม่เอาเรื่องป้าโดยเด็ดขาด เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกนั้น น.ส.ปนัสยาออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดและยังช่วยเงินปลอบขวัญให้เด็กด้วย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวเขาไปทำมาหากินเหมือนเดิม
“ต้องขอขอบคุณตำรวจที่ช่วยเหลือเป็นอย่างดีออกติดตามตัวหลังเกิดเหตุกดดันจนต้องเข้ามอบตัว แต่อย่างไรก็ต้องฝากเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน สำหรับคนที่ขับรถในเขตชุมชนให้ระมัดระวังเด็กเพราะเด็กก็คือเด็ก ไม่เข้าใจและไม่รู้เรื่องอะไร ขอให้ขับรถช้าๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน”นายสมชายกล่าว
น.ส.ปนัสยากล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นตนขับรถมาตามทางโดยปกติ โดยมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่ขับมาถึงที่เกิดเหตุนั้น ตนกำลังจะเดินทางไปขายของที่ตลาดนัดในเขตอำเภอนครชัยศรี เมื่อขับมาถึงมีเด็กวิ่งออกมาทำให้ตนไม่สามารถเบรครถไม่ทันพุ่งเข้าชนอย่างแรง หลังจากนั้นได้ลงมาดูเด็กแล้วอุ้มเพื่อจะพาไปโรงพยาบาล แต่เด็กร้องไห้เสียงดังว่าไม่ไป บอกว่าจะไปบอกแม่ก่อน ประกอบกับเด็กมีเลือดและบาดแผลเต็มใบหน้า อาจเป็นเพราะตนไม่ใช่ผู้ปกครองและไม่รู้จักหน้าตากันมาก่อน
ด้วยความตกใจตนจึงวิ่งหนีขึ้นรถไปด้วยความกลัว หลังเกิดเหตุฉันก็ไม่ได้เดินออกจากบ้านอีกเลย 5 วัน เนื่องจากกลัวความผิดและไม่กล้าบอกใคร ประกอบกับกระแสสังคมแรงมาก ทำให้เกิดความเครียด ในวันนี้จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกล่าวขอโทษกับคู่กรณีพร้อมทั้งมอบเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นการปลอบขวัญเด็ก และขอบคุณที่ไม่เอาเรื่อง”
ทางด้านรตอ.ชาตรี ชัชวาลย์ ร้อยเวร ได้ตั้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บแหลบหนี ก่อนนำตัวส่งศาลดำเนินคดี