เหยื่อเข้าชี้ตัววันนี้ 3 ตำรวจจับชาวประมงเรียกเงิน 5 ล้าน สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน ตร.ฮึ่ม! ผิดจริงฟันไม่เลี้ยง

จากกรณีชาวบ้านชุมชนบ้านสำโรง หมู่ 4 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 200 คน ฮือล้อมรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ของกลุ่มชาย 3 คนอ้างเป็นตำรวจจับกุม นายอรุชา บินมูซา อายุ 46 ปี พ่อค้ารับซื้อลูกหอยแครงจากชาวประมงพื้นบ้าน แล้วเรียกรับเงิน 5 ล้านบาทแลกกับการไม่ดำเนินคดี เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 พ.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 พ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.ภ.8 เข้าจับกุมชาวประมงพื้นบ้านและเรียกรับเงินแลกเปลี่ยนกับการไม่ดําเนินคดีนั้น ได้รับรายงานจาก ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. นายอนุชา บินมูซา มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย ความผิดฐาน “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”

ซึ่งวันนี้ผู้เสียหาย ร้อมพยาน จะเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และยืนยันตัวผู้ต้องหา โดย พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี มีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งคลี่คลายประเด็นข้อสงสัยให้ความกระจ่างกับสังคม และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ตลอดจนการดําเนินการตามขั้นกฎหมาย

อ่านข่าวชาวบ้านฮือล้อมรถ อ้างตำรวจจับชาวประมง เรียกเงิน 5 ล้าน แลกไม่ดำเนินคดี

อ่านข่าว ย้าย 3 ตำรวจ จับพ่อค้าซื้อหอยแครง รีดเงิน 5 ล้าน ตั้ง กก.สอบ รอผู้เสียหายแจ้งความ

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ดำเนินการทั้งหมด 2 ส่วน คือ การดำเนินการทางวินัย ซึ่งมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเร่งรัดให้รายงานผลภายใน 15 วัน หากพบว่ามีมูลก็จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และหากมีความผิดชัดแจ้งก็จะดำเนินการพิจารณาลงโทษทางวินัย หรือมีคำสั่งให้ออกจากราชการ

ในส่วนการดำเนินการทางอาญา ซึ่งผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น ยังอยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ตามฐานความผิดที่กล่าวหา และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับความประพฤติ วินัย การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด อยากให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบ แยกแยะตำรวจดี ตำรวจที่ไม่ดี ในส่วนตำรวจที่ไม่ดีนั้นก็จะดำเนินการลงทัณฑ์ทางวินัยและดำเนินคดีทางอาญาอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและไม่ให้เสียขวัญกำลังใจตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน