จากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ เมื่อมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ต นำน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี แม่ของน.ส.บี อายุ 16 ปี แจ้งความร้องทุกข์พ.ต.ท.กิตติภูมิ ถิ่นกลาง สารวัตร (สอบสวน) สภ.โคกกลอย จ.พังงา เพื่อหาตัวกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งในอ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นอกเหนือจากผู้ต้องหา 3 คน ที่อัยการจังหวัดพังงาสั่งฟ้องในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ 14 ปี ไปก่อนหน้าแล้ว เบื้องต้นพบเหตุเกิดตั้งแต่พ.ค.2559 โดยลงมือขืนใจมากถึง 6 ครั้ง รวมมีผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 40 คน
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายยุทธนากร จ๋วนเจนกิจ กำนันตำบลหล่อยูง เปิดเผยว่า หลังนำเสนอข่าวชาวบ้านในพื้นที่กว่า 40 คน มีส่วนพัวพันกับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 14 ปี ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม จนอาจเกิดเหตุบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงในชุมชน
“ชาวบ้านส่วนใหญ่เกิดความวิตกกังวล มีการรวมตัวกันจับกลุ่มพูดคุย วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาทางเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ชายส่วนใหญ่ในหมู่บ้านยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับคดีดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ถูกโยงเข้าไปให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี หลายคนถึงกับตกอยู่ในภาวะความเครียด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ”
นายเฉลิม ชาวบ้านเกาะแรด เปิดเผยว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีล่วงละเมิดเด็กหญิงอายุ 14 ปีในหมู่บ้าน ทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย ยอมรับว่ารู้จักกับครอบครัวผู้เสียหายเป็นอย่างดี และเคยให้ความช่วยเหลือกันในฐานะเพื่อนบ้าน
นายสุชีพ ชาวบ้านอีกรายหนึ่งที่ถูกระบุว่ามีส่วนกับคดีนี้ ก็ออกมายืนยันอย่างชัดเจน ว่าไม่เคยทำเรื่องเสียหายตามที่มีข่าวพาดพิงถึง
