เมื่อวันที่ 20 ต.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มอบหมายให้พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เดินทางไปสำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เพื่อส่งมอบสำนวนคดีพิเศษที่ 112/2560 กรณีบริษัท เดอะ ซิสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด และบริษัท อินโนวิชั่น โฮลดิ้ง จำกัด ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปลงทุนซื้อแพ็คเกจคอร์สสัมมนา ซึ่งปรากฏเอกสารจากการสอบสวนในสำนวนทั้งสิ้น 266 แฟ้ม หรือเป็นจำนวนรวม 82,315 แผ่น
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากบริษัท เดอะ ซิสเต็ม ปลั๊กฯ โดยนายภูดิศ กิตติธราดิลก กับพวก ผู้ต้องหาที่ 1 และบริษัท อินโนวิชั่นฯ โดยนายภูดิศ กับพวก ผู้ต้องหาที่ 2 และนายภูดิศ (ในฐานะส่วนตัว) ผู้ต้องหาที่ 3 กับพวก ได้กระทำความผิด โดยทุจริตร่วมกันหลอกลวงโดยประกาศโฆษณาต่อประชาชนทั่วไป ให้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท เดอะ ซิสเต็ม ปลั๊กฯ และบริษัท อินโนวิชั่นฯ โดยกำหนดแผนการลงทุนแบ่งระดับหรือแพ็คเกจออกเป็น 5 ระดับหรือแพ็คเกจ ทุกระดับหรือแพ็คเกจ ผู้ต้องหาตกลงที่จะจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนในอัตราร้อยละ 7 ต่อหนึ่งสัปดาห์ โดยกำหนดจ่ายผลตอบแทนให้ทุกสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 52 สัปดาห์ หรือ 1ปี
ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อและนำเงินมาเข้าร่วมลงทุน แต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลง ทำให้ได้รับความเสียหาย 2,653 คน รวมมูลค่าความเสียหาย 574,057,931.22 บาท
จากการสอบสวนแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นควรสั่งฟ้องบริษัท เดอะ ซิสเต็ม ปลั๊กฯ โดยนายภูดิศ กับพวก ผู้ต้องหาที่ 1 และบริษัท อินโนวิชั่นฯ โดยนายภูดิศ กับพวก ผู้ต้องหาที่ 2 และนายภูดิศ (ในฐานะส่วนตัว) ผู้ต้องหาที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน และมีการออกหมายจับผู้ต้องหาอีกรวม 10 คน
ทั้งนี้ ดีเอสไอขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการชักชวนให้ลงทุนที่อ้างว่ามีผลตอบแทนสูงกว่าอัตราที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้ ดังนั้น เพื่อเป็นข้อเตือนใจสำหรับประชาชนหรือผู้นิยมการลงทุนในรูปแบบลักษณะดังกล่าว ขอให้ตรวจสอบความเป็นมาของบริษัทก่อน ว่ามีการจัดตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะหรือมีความมั่นคงในการดำเนินกิจการมาอย่างยาวนานหรือไม่ และการให้ผลกำไรหรือปันผลที่มีอัตราสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้น โดยส่วนใหญ่จะมีความสุ่มเสี่ยง เข้าข่ายการหลอกลวงให้ลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่
