แม่น้องชมพู่ จุดธูปบอกลูก ‘เจอคนที่ทำให้ตายแล้ว’ เผยหลังศาลตัดสิน มีเหตุทำสมาธิกระเจิง

วันที่ 23 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนามัย วงศ์ศรีชา, นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา และ สะดิ้ง พ่อแม่และพี่สาวของน้องชมพู่ ได้เดินทางไปที่วัดถ้ำภูผาแอก ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถูปหรือธาตุของน้องชมพู่ โดยแม่ของน้องชมพู่ นำนมที่น้องชอบ 1 กระป๋อง เปิดฝาแล้ววางไว้ที่หน้าสถูป เพราะหาซื้อของไม่ทัน

จากนั้นทั้ง 3 คน ได้จุดธูป 1 ดอก แล้วเอื้อมมือไปจับที่สถูปน้องชมพู่ พร้อมกับบอกว่า “ชมพู่ แม่มาบอกน้องแล้วนะ วันนั้นน้องได้ไปศาลกับแม่ไหม หนูเห็นแล้วใช่ไหมลูก ศาลตัดสินแล้ว คนร้ายได้รับโทษแล้ว คนที่ทำให้น้องเสียชีวิต คนที่ทำให้น้องไม่ได้อยู่กับครอบครัว ศาลได้สั่งลงโทษแล้ว ขอให้น้องไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ไม่ต้องรอศาลอุทธรณ์ ศาลฎีฏา ให้น้องไปเกิดในภพภูมิที่ดี”

ส่วนพ่อของน้องชมพู่ ก็ได้จุดธูปบอกกับลูกว่า “ขอให้น้องไปเกิดอยู่ที่ดีๆ ตอนนี้ได้เห็นคนร้ายแล้ว ขอให้เขาได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม ตอนนี้ก็ขอให้น้องไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์”

ก่อนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังจากศาลพิพากษาคดีจนถึงวันนี้ รู้สึกดีขึ้นมากๆ เพราะวันที่เข้าไปฟังคำพิพากษา ตนมีสมาธิมาก แต่พอศาลอ่านเสร็จแล้วออกมามีความรู้สึกหลายอย่างเต็มไปหมด จนกลายเป็นไม่มีสมาธิจะโฟกัสอะไรเลย เนื่องจากมีอะไรให้ทำหลายอย่าง และต้องเดินทางไกลด้วย พอวันนี้ทุกอย่างมันโล่งหมด เลยมาบอกน้อง ให้น้องไปเป็นนางฟ้าได้แล้ว ไม่ต้องศาลอุทธรณ์ ศาลฎีฏา เพราะแม่เชื่อในหลักฐานที่เห็นในศาลชั้นต้นแล้วว่าเขาคือคนร้าย เนื่องจากน้องรอมา 3 ปีแล้ว ดังนั้นอยากให้น้องไปเกิดใหม่ ไปอยู่ในที่ดีๆ

ส่วนหลังจากนี้ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าสู้ในชั้นอุทธรณ์ และฎีฏาต่ออย่างแน่นอน แม้จะมีคนออกมาบอกว่าอย่าเพิ่งดีใจเพราะยังเหลืออีก 2 ศาล ตัวของแม่น้องชมพู่ ไม่ได้โฟกัส เพราะไม่ใช่สาระสำคัญอะไร เนื่องจากแม่เชื่อในหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านการสืบสวนสอบสวน การเบิกความพยานต่อศาล และการพิพากษาของศาลชั้นต้น

สำหรับครอบครัวในฐานะผู้สูญเสียก็จะรอดูในชั้นอุทธรณ์ หากพนักงานอัยการอยากให้ศาลเห็นว่าคดีของน้องเป็นข้อหา เจตนาฆ่า แล้วหากจำเลยสู้จนกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ สุดท้ายครอบครัวก็เป็นผู้สูญเสียแบบเดิม ดังนั้นตอนนี้ยอมรับว่าดีใจ และมั่นใจว่าศาลชี้ไม่ผิดตัวแน่นอน

ส่วนทางพ่อของน้องชมพู่ บอกว่า นี่เป็น 3 ปีที่รอคอย เหมือนกับยกภูเขาออกจากอก และเชื่อว่าศาลชี้ไม่ผิดตัวอย่างแน่นอนเช่นเดียวกัน

สำหรับครอบครัวของน้องชมพู่ หลังจากนี้ก็จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิม โดยช่วงกลางวันก็จะช่วยทำสวน และเลี้ยงแพะ ส่วนช่วงเย็นก็จะกลับมาไลฟ์ขายเสื้อผ้า เพราะเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ไปซื้อผ้าเพื่อจะนำมาขายแล้ว ซึ่งหากใครสนใจก็ติดตามได้ที่ YouTube ของแม่น้องชมพู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน