นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดฐานเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อแลกกับการอนุญาตให้เรือลำเลียงชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้าเทียบท่าเทียบเรือในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2562 ว่า ล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้มีหนังสือลงวันที่ 22 ก.พ. 2564 เรื่องแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีอาญาฟ้อง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) รวมถึงนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ และนายราเกส กาเลีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานปฏิบัติการในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ได้

“ตนในฐานะผู้ถูกชี้มูลฯ และในนามตัวแทนบริษัทฯ ขอเรียนว่าตลอดระยะเวลาปีกว่าๆ ที่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ตนมีความกังวลและเป็นห่วงในความรู้สึกของประชาชนคู่ค้า รวมถึงผู้ลงทุน อย่างไรก็ดี ตามที่ได้ยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าบริษัทจะต่อสู้จนถึงที่สุด เนื่องจากมีความมั่นใจและเชื่อมั่น ว่าการดำเนินกิจการของบริษัทฯ เป็นไปโดยโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ตามหลักธรรมาภิบาลและมีมาตรการป้องกันปราบปรามการทุจริตภายในองค์กรอย่างเข้มงวดตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างเพียงพอ โดยได้ให้ความร่วมมือในกระบวนการสอบสวนอย่างเต็มที่ และพิสูจน์ได้แล้วว่าบริษัทมีความบริสุทธิ์ และจะดำเนินงานอย่างถูกต้องตรงไปตรงมาตรวจสอบได้ต่อไป”นายภาคภูมิ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 ตั้งเป้าหมายรายได้ 3.7-3.8 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 2563 ที่มีรายได้ 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากการรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างในมือที่ปัจจุบันมีมูลค่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 3-4% ของรายได้ เติบโตจากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 3% ของรายได้ โดยล่าสุดเมื่อเดือนก.พ. บริษัทได้ลงนามสัญญาก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C งานก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือมีมูลค่าประมาณ 6,245 ล้านบาท รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท

และยังมีโครงการที่จะร่วมประมูลในปีนี้คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) โครงการรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางและโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐต่างๆ ที่จะทยอยเปิดประมูลออกมาในปีนี้ประมาณ 3-4 แสนล้านบาท

โดยตลอดปีนี้บริษัทยังคาดว่าจะได้งานก่อสร้างใหม่เพิ่มขึ้นได้ราว 4 หมื่นล้านบาท และรักษามูลค่างานในมือที่ 1 แสนล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน