พอร์ชพิสูจน์ฝีมือบทขุนไกร วางเป้าหมายทำผลงานที่ไทยให้ดีที่สุด

พอร์ชพิสูจน์ฝีมือบทขุนไกร ในละครอิงประวัติศาสตร์ “สายโลหิต” ทางช่อง 7 ซึ่งลาจอไปเรียบร้อยได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ โดยเฉพาะบท ‘ขุนไกร’ ตัวละครเอกของเรื่อง ที่ได้พระเอกหนุ่ม ‘พอร์ช’ศรัณย์ ศิริลักษณ์ สวมบทบาท

แม้ละครจะลาจอ แต่กระแสยังอยู่ วันนี้จังหวะดี ได้พูดคุยกับพระเอกหนุ่มพอร์ช

พอรู้ว่าได้เล่น “สายโลหิต” เป็นไงบ้าง?

พอร์ช – “ผมไม่เคยดูเวอร์ชั่นเก่า 20 ปีที่แล้ว ไม่รู้จัก แต่จากที่คนบอกๆ ละครเรื่องนี้สุดยอด ดีมากๆ เลยไปเปิดดูนิดหน่อยบางฉากที่สำคัญ ไปดูคาแร็กเตอร์ที่พี่หนุ่ม-ศรราม เล่น ว่าเป็นยังไง โอ้โห ละครเรื่องนี้ตราตรึงคนไทยมากๆ กดดันเลย เพราะส่วนใหญ่ละครรีเมกจะถูกเปรียบเทียบ เลยทำการบ้านหนักมาก กลับมาคิดว่าเล่นยังไงให้ไม่เหมือนเวอร์ชั่นเก่า ซึ่งถ้าได้ดูจะรู้ว่าไม่เหมือน อย่างฉากรักจะละมุนกว่า อยากให้คนดูรู้สึกว่านี่คือละครใหม่ ไม่ใช่ละครรีเมก อยากให้แตกต่าง ผมมีความตั้งใจมาก เพราะเป็นพีเรียดเรื่องแรก หนัก บทพูดยากทั้งเรื่องและต้องพูดตามบทเป๊ะๆ พี่แดง- ศัลยา คนที่เขียนบท เขียนกำกับบอกมาเลย ห้ามเปลี่ยนไดอะล็อก แล้วบทเป็นคำย้อนยุค ผมคิดว่าต้องทำให้ได้ ท้าทาย สนุกดี”

พอร์ชพิสูจน์ฝีมือบทขุนไกร

‘พอร์ช’ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ในบทขุนไกร

นานไหมกว่าจะปรับตัวเข้าถึงบทบาท ‘ขุนไกร’ ได้จริงๆ?

พอร์ช – “ประมาณ 5 วัน วันละคิว แรกๆ จะงงๆ เพราะปกติผมไม่ใช่คนขรึมมาก ไม่นิ่ง แต่เรื่องนี้ต้องนิ่ง ขยับน้อยๆ ผมชอบนะเรื่องนี้ ชอบเนื้อเรื่อง พี่แดงเขียนบทมากินใจ ทำให้เห็นว่าการที่เราไม่รักกันมันทำให้ประเทศเราเป็นยังไง ซึ่งในสังคมสมัยนี้ก็ยังมีคนที่เห็นแก่ตัว ทรยศบ้านเมืองเยอะ ซึ่งมันเข้ากับยุคสมัยนี้เหมือนกัน”

พอร์ชพิสูจน์ฝีมือบทขุนไกร

‘ขุนไกร’ กับ ‘พอร์ช-ศรัณย์’ ต่างกันเยอะไหม?

พอร์ช – “เยอะนะ แต่รักชาติเหมือนกัน ผมเล่นเอาตัวเองใส่ไปด้วยนิดนึง ในเรื่องยิ้ม การพูดกับดาวเรือง แต่เวอร์ชั่นเก่าจะนิ่งกว่านี้ และผมจะใส่ความใจร้อนไปมากกว่าเวอร์ชั่นเก่า ปากร้ายกว่า ขี้โมโหกว่า”

เกาะติดข่าวบันเทิงฮอตๆ
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสดบันเทิง ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับ ‘นาว-ทิสานาฏ’ เป็นอย่างไรบ้าง?

พอร์ช – “ผมรู้จักนาวมานานมาก แต่ไม่เคยประกบคู่กัน เคยทำงานถ่ายเอ็มวีด้วยกันตั้งแต่นาวอายุ 15 ได้ เมื่อสิบปีที่แล้ว พอมาเจอแล้วอยู่ช่องเดียวกัน ซึ่งสนิทอยู่แล้ว เวลาถ่ายทำมันเลยขำ ตลกมากกว่า เพราะเราทั้งคู่เป็นคนทำงานแบบรีแล็กซ์ ไม่เครียด เวลาทำงานจะคุยกันก่อน ตอนซ้อมก็จะขำกันตลอด แต่พอเอาจริงก็เต็มที่ ตั้งใจ ทำงานกับนาวง่าย เพราะเขาเป็นคนเก่ง อินเนอร์ดี ดราม่าร้องไห้เก่ง ส่งอารมณ์ไปเขาเล่นได้ดี เล่นเต็มที่ เวลาเข้าฉากเลิฟซีน ผมจะกระซิบบอกว่าเดี๋ยวพี่เล่นแค่นี้พอ แตะๆ ใช้กล้องช่วยบัง แต่นาวบอกเอาเลย เต็มที่ มันจะได้อิน เดี๋ยวหนูไม่อิน”

‘พอร์ช’

พอร์ช-ศรัณย์ – นาว-ทิสานาฏ

ฉากอะไรที่เทกเยอะ?

พอร์ช – “ส่วนใหญ่ฉากขี่ม้า พายเรือ เพราะแรกๆ ผมทำไม่เป็น ส่วนพวกฟันดาบไม่ยากเท่าไหร่ แต่ที่ยาก คือรบแล้วขี่ม้า คือผมขี่ไม่เป็นเลยนะ ก็ค่อยๆ ฝึก ผมต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งการขี่ม้าและพายเรือ ซึ่งพายเรือยากกว่า เพราะม้าถ้าผมไม่กลัวและรู้วิธีคุมก็แป๊บเดียว ขี่ได้ ต้องรู้ทริก สำคัญเลยคือต้องไม่กลัว ถ้ากลัวม้ามันรู้ ส่วนพายเรือยาก ในเรื่องต้องพายเก่งแล้วพายข้างเดียว ซึ่งมันยาก ใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะได้ ทั้งพายทั้งพูดงงไปหมด ต้องดูหน้าเรือตลอด ถ้าหน้าเรือเอียงก็ต้องดึง พอโฟกัสตรงนี้เสร็จก็ลืมบท ไหนจะจอดเข้าท่าอีก แรกๆ ใช้เชือกดึงเพราะมุมกล้องไม่ได้ พอเอียงนิดมันก็บังหน้านางเอก แล้วมีวันนึง พายยังไงก็พายไม่ได้ คือมันไม่ตรง ภาพมันออกมาเหมือนงูเลื้อย ยากจนต้องใช้เชือกดึง หลังๆ มาโอเค”

“แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดของผมเรื่องนี้คือบท ทำการบ้านเยอะที่สุด ไม่ว่าจะโปรฯ แค่ไหน ถ่ายมาปีครึ่งเกือบจะจบแล้วก็ยังต้องท่องบทอยู่เหมือนเดิม ผมทำงานในวงการมาเกือบ 10 ปี ละครเรื่องนี้เรื่องบทถือว่ายากที่สุด เป็นละครที่ต้องท่องบทเยอะมาก พอพูดเป็นพยายามจำ ก็มานั่งนึกว่าจะทำยังไงให้มันสมูท ยิ่งบางไดอะล็อกเขาไม่ให้เว้นเยอะ เพราะเดี๋ยวความหมายเปลี่ยน”

‘พอร์ช’

ฟีดแบ็กที่ได้รับ?

พอร์ช – “คนพูดถึงเยอะ ชมเยอะว่าซีจีดี และที่ผมชอบเลยคือคอมเมนต์ว่าพอร์ชก็ไม่ได้อ้วนนิ(หัวเราะ) ผมโอเค สบายใจ ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีคนพูดว่าผมไม่เหมาะกับบทขุนไกร ผมอยากจะบอกทุกคนว่าให้ไปดูก่อน อยากให้เปิดใจ เข้าใจว่าผมไม่มีทางแทนเวอร์ชั่นเก่าได้อยู่แล้ว แต่อยากให้มองว่าเป็นอีกเรื่องนึง ไม่เหมือนกัน ต้องอย่าติดภาพ อยากให้มองพอร์ชเป็นพอร์ช เป็นขุนไกรเวอร์ชั่นพอร์ช แต่จากที่แฟนคลับส่งมาให้ดู เขาก็บอกนะว่าเวอร์ชั่นเก่าตราตรึงในหัวใจ แต่เวอร์ชั่นนี้ก็ไม่แพ้ เหมือนละครอีกเรื่องนึงที่ไม่ใช่ละครรีเมก ผมอ่านตรงนี้แล้วโอเคนะ ขนาดผมดูแล้วพยายามไม่เข้าข้างตัวเองยังรู้สึกสนุกเลย บางฉากผมรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าใครตาย ขนาดตอนเล่นยังเศร้า แต่พอฉายจริงๆ ผมมานั่งดูเองยังน้ำตาคลออยู่เลย”

เล่นเอง ได้ข้อคิดกับตัวเองไหม?

พอร์ช – “มันได้เห็นประสบการณ์ว่าในสมัยนี้ก็มีคนที่เห็นแก่ตัว ซึ่งเป็นดารา ผมก็เจอเยอะอยู่นะ แล้วพอมาเล่นละครมันใช่จริงๆ คนแบบนี้ผมเคยเจอแล้ว ก็สอนตัวเองไปด้วย ถ้าถามว่าผมให้คะแนนเรื่องนี้กับตัวเองเต็มสิบเท่าไหร่ คงเกินสิบด้วยครับเพราะเต็มที่มาก เรื่องนี้มีความกดดันเยอะ มีคนพูดใส่หูเยอะ คนบอกเรื่องนี้ไม่เหมาะกับพอร์ช คือผมไม่ได้รู้สึกแย่ แค่รู้สึกว่าเดี๋ยวเจอกัน ให้ละครออนแอร์ก่อนค่อยมาว่ากันอีกที ให้ผลงานพิสูจน์ตัวเอง”

พอร์ชว่าตัวเองมีพัฒนาการด้านการแสดงโตขึ้นจากแต่ก่อนเยอะไหม?

พอร์ช – “สมัยก่อนเวลาเล่นละครจะเครียด ว่าจะทำได้หรือเปล่า เพราะกดดันตัวเอง ตอนนี้ประสบการณ์ทำให้ผมเก่งขึ้น ดูหนังเยอะ ดูซีรีส์ อ่านหนังสือเยอะ มันจำเป็นนะ ผมเป็นคนอ่านหนังสือแล้วเห็นภาพมากกว่าหนัง แต่ที่ได้เอามาใช้คือไปดูซีรีส์ต่างชาติ ว่าเขาเล่นยังไงแล้วเอามาปรับใช้ อาชีพนักแสดงต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหยุดเล่นหรือไม่ได้เล่นนานมันก็ถอยลง แต่ผมเป็นคนชอบดูหนังแล้วชอบพูดตามหนังเลย ไม่ได้ดูเพื่อความสนุกอย่างเดียว”

มองถึงงานโกอินเตอร์บ้างไหม?

พอร์ช – “อยากทำที่ไทยให้โอเคก่อน สุดก่อน พีกไปเลย แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้สุดขนาดนั้น คือผมยังไม่มีเป้าหมายอะไรขนาดนั้น ไม่ต้องมีรางวัล การันตีหรอก เพราะเดี๋ยวนี้รางวัลมันให้กันง่ายๆ เลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ เอาแค่คนดูดูแล้วยอมรับ ก็พอ แล้วผมเองไม่ได้ติดกับบทพระเอกตลอด ถ้าบทดีเป็นพระเอกบางทีก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรในเรื่อง มันอยู่ที่บทมากกว่า ซึ่งละครไทยเดี๋ยวนี้ก็มีเยอะนะที่ตัวร้าย นำ แล้วพระเอกนางเอกคือหายไปเลย”

พอร์ช ศรัณย์ ตอนเด็ก

 

 

 

 

 

 

 

อยู่วงการเกือบ 10 ปี ได้อะไรบ้าง?

พอร์ช – “ผมว่ามันฝึกให้ผมเป็นคนที่โตขึ้นมากๆ เพราะผมทำงานตั้งแต่อายุ 17-18 ถ้าตอนนั้นไม่ได้ทำงานตรงนี้ก็คงเที่ยวเล่นกับเพื่อน อาจจะเป็นเด็กเกเรก็ได้ วงการฝึกให้ผมเป็นคนมีความรับผิดชอบ มีความเกรงใจ ถามว่ากว่าจะมาเป็นพอร์ช ทุกวันนี้ยากมั้ย คือเด็กๆ ผมจะงอแงปกติจะขี้เกียจ แต่ด้วยหน้าที่มันต้องทำ สมมติว่า ผมทำงานที่กองถ่าย อยู่ดีๆ แล้วขี้เกียจไป มีคนนั่งรอ 40-50 ชีวิต ผมเป็นคนแคร์ ความรู้สึกคน ป่วยแค่ไหนก็จะพยายามไปกองก่อน”

‘เกรซ’เป็นทุกอย่าง-หลังอายุ 32 คิดเรื่องแต่งงาน

พอร์ช ศรัณย์ – เกรซ-ชลิตา

สำหรับเรื่องควาามรักคบหากับ ‘เกรซ-ชลิตา’ แฟนสาวนอกวงการมาจวนเจียนจะ 4 ปีเต็มแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม ‘พอร์ช-ศรัณย์’ ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจถึงความรักกับแฟนสาวว่า

“แฮปปี้ดีครับ ใกล้จะ 4 ปีแล้วที่คบกัน ผมจะไม่ค่อยลงรูปอะไรมาก ส่วนใหญ่ผมจะชอบแกล้ง เขามากกว่า แต่วันสำคัญก็จะมีนะ ส่วนวันครบรอบก็อาจจะดินเนอร์ปกติ คงไม่ถึงขั้นจัดปาร์ตี้อะไร ผมไม่ใช่คนเว่อร์วังว่าจะต้องไปแสดงให้คนอื่นเห็นว่าผมรักแฟนผมมากแค่ไหน ไม่ใช่คนพยายามให้คนเห็นเพื่อเป็นกระแส อันนี้ไม่ทำ”

ถามว่าอะไรที่ทำให้คลิกกับเกรซที่สุด พระเอกหนุ่มตอบว่า “ความเข้าใจสำคัญสุดสำหรับผมนะ ผมต้องเข้าใจกันและกัน ผมรู้ว่าคนของผมเป็นยังไง ผมต้องรับในสิ่งที่เขาเป็นได้ ไม่ใช่มานั่งปรับเพื่อให้คบกันได้ ปรับเยอะมันก็ไม่ใช่ ตัวผมอีก ถ้าผมทำงานเยอะ ผมก็จะบอกเขาว่า ทำงานเยอะนะ และผมเป็นคนซีเรียสเวลาทำงาน ไม่ค่อยเล่นโทรศัพท์ เขาก็จะไม่จู้จี้ ไม่จุกจิก ไม่ตาม แต่ถ้าตามผม ผมปล่อยไปเลยนะ บายจริงๆ เขารู้ว่าผมเป็นคนอย่างนี้ ผมเป็นคนมีเหตุผลมาก ผมคุยกันแต่แรกว่านิสัยเป็น อย่างนี้”

เรียกว่าเกรซหักเขี้ยวเล็บเราได้หรือเปล่า พอร์ชแย้ง “ไม่นะ คือคนคบกัน มันยังไม่เป็นคู่ชีวิต ทุกคนต้องมีชีวิตส่วนตัวของตัวเอง ถึงวันว่างมาอยู่ด้วยกัน หรือผมต้องมีเจอเพื่อน อยู่กับเพื่อนบ้าง ไม่งั้นชีวิตจะไม่มีเพื่อนเลยนะ”

พอร์ช ศรัณย์ – เกรซ-ชลิตา

พอต่างตอบโจทย์กันและกัน ทำให้เรามองถึงอนาคตหรือยัง “ด้วยความที่ผมยังเด็กทั้งคู่ เลยยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น เพราะผมทำงานเยอะ ยังมีสิ่งที่ต้องดูแลเยอะ ครอบครัวอีก ผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยถามอะไร เพราะผมมีเป้าหมายในชีวิตของผมอยู่แล้วว่าถ้าผมอายุ 32 ปี พ่อแม่ต้องสบายเต็มที่และไม่มีหนี้ คืออีก 5 ปี ผมต้องทำให้ตัวเองหมดห่วงทุกอย่างก่อน”

แสดงว่าหลังอายุ 32 ถึงคิดเรื่องแต่งงาน “ใช่ ขอให้ครอบครัวสบาย ไม่มีหนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นถ้ามามีครอบครัวมันก็เยอะกว่าเดิม หลังจากผมหมดห่วง ทีนี้อยากทำอะไรก็ได้แล้ว ไม่ต้องมานั่งเครียด ซึ่งเกรซก็รู้ เป้าหมายตรงนี้ของผมเหมือนกัน น้องเขายังเด็ก น่าจะยังไม่คิดถึงขั้นแต่งงาน ผมก็ต่างใช้ชีวิตกันไป”

‘น้องเกรซ’ ตอนนี้ถือเป็นอะไรสำหรับเรา พอร์ชกล่าวว่า “เกรซเป็นเหมือนครอบครัว ผม เขาไม่ใช่แค่คนรักผม เขาเป็นทุกอย่าง ให้ผมได้ ถึงเวลาผมเครียดเขาเป็นที่ปรึกษาให้ผมได้ บางทีก็คุยกันเหมือนเพื่อน ฟีลตลกๆ แต่ฟีลหวานๆ ก็มีนะ เขาเป็นหลายๆ อย่างให้ผมครับ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน