ชวนชิมมังคุด ‘ออร์แกนิก’ ‘สวนกุศล’ คลอง 9 ปทุมธานี : รายงานพิเศษ

ชวนชิมมังคุด – แม้จะไปปทุมธานีบ่อยครั้ง แต่เพิ่งรู้ว่าคลอง 9 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี มีสวนทุเรียน-มังคุดอินทรีย์ด้วย ชื่อ “สวนกุศล” อยู่ที่บ้านศรีคัคณางค์ หมู่ที่ 3 คลอง 9 ฝั่งตะวันตก ต.บึงชำอ้อ เจ้าของคือ “คุณธีระธนัตถ์ ตันพิริยชัย” วัย 49 ปี หรือที่เรียกกันว่า “เฮียแก้ว” สวนนี้ปลูกผลไม้หลายชนิดทั้งทุเรียน มังคุด ลองกองและปาล์มน้ำมัน ทั้งหมดปลูกแบบอินทรีย์ไม่ได้ใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีใดๆ ช่วงนี้กำลังเก็บผลผลิตมังคุดที่ออกมาตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. ใครได้ชิมมังคุดแล้วต่างติดใจรสชาติหวานอร่อย

 

คุณธีระธนัตถ์เล่าว่า ในเนื้อที่สวนทั้งหมด 130 ไร่นั้น แบ่งปลูกมังคุดประมาณ 40 ไร่ นอกนั้นเป็นทุเรียนและผลไม้อื่นๆ โดยปลูกมา 35 ปีแล้ว เหตุผลที่เริ่มปลูกผลไม้เนื่องมาจากพ่อชอบทานทุเรียน จึงนำทุเรียนมาปลูก พอดีช่วงนั้นส้มเริ่มมีความเสียหายจึงปลูกทุเรียนแซมส้ม และปลูกมังคุดเพิ่มด้วยเพราะเป็นผลไม้ที่ปลูกง่าย ไม่ใส่สารเคมี มีแมลงศัตรูน้อย

ปีนี้มังคุดให้ผลผลิตได้เพียง 10 ตัน เสียหายเยอะมากประมาณกว่า 80% เพราะไม่มีน้ำ เนื่องจากคลอง 9 ขาดน้ำตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน มีอยู่ช่วงหนึ่งทางอบจ.ปทุมธานีส่งน้ำมาให้ เป็นน้ำจากคลองธัญญะที่มาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นน้ำเค็ม ทำให้ต้นทุเรียนตายไป 700 กว่าต้น ส่งผลให้ปีนี้ทุเรียนได้ผลผลิตไม่มาก จึงไม่ได้รับจองเหมือนทุกปี ซึ่งทางสวนปลูกหลากหลายพันธุ์ทั้งพวงมณี หมอนทอง หลงลับแล ชะนี และก้านยาว

ชวนชิมมังคุด

ด้วยสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ปีนี้มังคุดออกดอกสองรอบ อย่างที่คุณธีระธนัตถ์บอก รุ่นแรกออกเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว และมาออกดอกอีกครั้งตอนปีใหม่ปีนี้ ที่ออกดอกสองรุ่นเพราะอากาศหนาวกระทบร้อนแรงๆ ออก แต่ถ้าอากาศหนาวนานๆ จะไม่ออกดอก

การปลูกผลไม้ของสวนกุศล ทำเป็นสวนยกร่อง ส่วนใหญ่เวลาเก็บผลผลิตต้องนั่งเรือพายไปเก็บ เนื่องจากที่นี่เคยเป็นสวนส้มที่ยกร่องมาก่อน แต่พอเจอปัญหาโรคส้มทำให้ผลผลิตลดลงและต้นส้มตาย ชาวสวนหนองเสือหลายรายเลิกปลูกส้ม บ้างก็หันมาปลูกผลไม้อย่างอื่นแทน ขณะที่บางรายย้ายไปทำสวนส้มที่แถวภาคเหนือตอนล่าง

สำหรับการตัดสินใจปลูกผลไม้แบบอินทรีย์นี้ คุณธีระธนัตถ์ให้เหตุผลว่า ยึดแนวปรัชญาหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกอย่างไม่มีคนงานและเห็นว่าการทำเกษตรอินทรีย์เป็นสิ่งที่ปลอดภัยทั้งคนปลูกและคนกิน

เขาเปรียบเทียบให้ฟังว่า ตอนทำสวนส้มใช้สารเคมีหนักมาก แต่สมัยนั้นรายได้ดีเก็บผลผลิตได้ปีละหลายล้านบาท แต่พอทำส้มไปใช้เคมีไปก็มีแต่เข้าตัวๆ ถ้าใช้เคมีสมัยก่อนต้นหนึ่งได้ 300 ก.ก. แต่ตอนนี้ต้นหนึ่งได้เข่งหนึ่งก็เก่งแล้ว ทำไปก็ขาดทุน แถวนี้ยังมีสวนส้มอยู่บ้างแต่ผลผลิตไม่ดก อีกทั้งต้นทุนสูงเจอค่าปุ๋ยก็หมดแล้ว

ชวนชิมมังคุด

อย่างไรก็ตามในการปลูกผลไม้แบบอินทรีย์นั้น สมัยก่อนขายยากมากพอไปหาแม่ค้าก็บอกว่าเนื้อไม่สวยลูกสวยสู้เจ้าอื่นไม่ได้ แต่โชคดีตอนนี้มีโซเชี่ยลมีเดีย มีกูเกิล มีเฟซบุ๊ก ทำให้ขายดีและง่ายขึ้น อย่างที่สวนมีลูกค้า ประจำทางเฟซบุ๊ก

ถามถึงการดูแลบำรุงต้นมังคุดและทุเรียน เจ้าของสวนกุศลแจงว่า ส่วนมากจะเน้นการปรับสภาพดินให้เป็นกลาง เพื่อให้ต้นไม้แข็งแรงอยู่ได้ พร้อมเสริมด้วยปุ๋ยคอกที่ทำด้วยมูลวัว และกระดูกป่น โดยจะใส่หลังเก็บผลผลิตเสร็จ ช่วงฝนเริ่มลง และเริ่มแตกใบใหม่ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับต้นไม้ใหญ่ หากมีแมลงมาทำลายผลผลิตจะใช้สารชีวภาพ การดูแลที่สำคัญอย่าให้ขาดน้ำ และใส่ปุ๋ยคอกตามระยะ ส่วนมังคุดหลังออกลูกหมดแล้วจะใช้วิธีตัดยอด ถ้าไม่ตัดต้นจะสูงมาก

นอกจากนี้การทำให้มังคุดออกดอกต้องใช้วิธีการกระชากน้ำ ซึ่งต้องดูจังหวะเวลาและอากาศด้วย ต้องดูช่วงอากาศที่เหมาะสมพอหนาวเริ่มคลายร้อนก็ให้น้ำได้เลย

การปลูกทุเรียนกับมังคุดนั้น เจ้าของสวนกุศลอธิบายว่า ทุเรียนต้องบำรุงมากกว่า โดยเฉพาะการให้น้ำตอนติดดอกต้องพิถีพิถันกว่า ทั้งนี้การปลูกทุเรียนแบบยกร่อง ทำให้ได้น้ำสม่ำเสมอ อีกทั้งดินที่หนองเสือก็เหมือนดินที่ จ.นนทบุรี เมื่อให้ปุ๋ยคอกและกระดูกป่นทำให้ดินมีคุณภาพ เนื้อทุเรียนมังคุดจึงอร่อยปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์

ไม่เหมือนทุเรียนที่ใช้ปุ๋ยเคมีแม้เนื้อทุเรียนจะสวยแต่รสชาติไม่อร่อย แต่ผลผลิตที่ได้มีจำนวนน้อยกว่าการปลูกแบบเคมี ดีที่ว่าขายได้ราคาแม้หน้าตาจะไม่สวยก็ตาม เฉลี่ยแล้วมังคุดต้นหนึ่งจะให้ผลผลิตประมาณ 50 ก.ก.ถ้าเป็นลูกเล็ก ถ้าลูกใหญ่จะได้ต้นละประมาณ 100 ก.ก. แต่ปีนี้มังคุดออกมาลูกเล็กหมดเพราะขาดน้ำ

ชวนชิมมังคุด

สำหรับผลผลิตในปีนี้เฮียแก้วบอกว่า ปีที่แล้วมังคุดออกน้อย ทุเรียนออกมาก พอปีนี้มังคุดออกมาก ที่ผ่านมาปัญหาหนักของสวนมักเจอปัญหาเรื่องน้ำ ถ้าเป็นทุเรียนจะเจอปัญหาเรื่องกระรอกและหนูเท่านั้น เพราะการทำด้วยเกษตรอินทรีย์ทำให้ต้นไม้แข็งแรงอยู่แล้ว แต่ก็ขายได้ราคากว่าปลูกใช้สารเคมีหลายเท่า

อย่างมังคุดจากภาคตะวันออกขาย 3 ก.ก. 100 บาท ขณะที่ของสวนกุศลช่วงผลผลิตออกใหม่ๆ ขายก.ก.ละ 50 บาท ทุกลูกไม่มีเสียและไม่มีลูกไหนเป็นแก้ว ที่สวนเน้นคุณภาพมาก ถ้ามังคุดลูกไหนตกจะไม่นำมาขายให้ลูกค้า เช่นเดียวกับทุเรียน ถ้าลูกไหนมีปัญหาทางสวนคืนเงินให้เลย

“ปีนี้ผลผลิตมังคุดน่าจะไม่ได้กำไร อาจขาดทุนด้วยซ้ำ แต่ต้องยอมรับสภาพเพราะขาดน้ำ ทุกสวนขาดทุนหมดไม่ว่าจะเป็นสวนกล้วยและสวนอื่นๆ ดังนั้นจึงเตรียมแก้ไขด้วยการใช้แบ๊กโฮขุดร่องน้ำให้ลึกขึ้น เพื่อจะได้เก็บน้ำได้มากขึ้น” เอียแก้วกล่าว

นับเป็นสวนผลไม้อินทรีย์อีกสวนที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ สนใจเยี่ยมชมหรือจะซื้อผลผลิตของสวนเข้าไปดูได้ที่เพจ สวนกุศล ทุเรียน-มังคุด ปลอดสารเคมี คลอง 9 ฝั่งตะวันตก บึงชำอ้อ

โดย ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

++++

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ตามไปดู..พ่อหลวงหนุ่ม‘ปกาเกอะญอ’ รวมพลังชุมชนปลูกผักผลไม้อินทรีย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน