ไม่ว่าในที่สุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงอยู่ในตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี”หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยสำคัญในทางการเมือง

1 ผลการประเมินและตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารแห่งพรรคเพื่อไทย

1 ผลการเลือกตั้ง

จากนี้จึงเห็นได้ว่า มติอันเป็นบทสรุปของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ คำตอบสุดท้ายยังอยู่ที่มติอันเป็นบทสรุปของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน ผลการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยเพียงพรรค เดียวก็ยังไม่เพียงพอ

ต้องเป็นผลการเลือกตั้งภายในพันธมิตร “ประชาธิปไตย”

การออกโรงทั้งของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในขณะนี้จึงเสมอเป็น “ตัวเลือก” อันเสนอมาจากพรรคเพื่อไทย

1 เป็นการเสนอต่อประชาชนที่ให้การสนับสนุนและเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจเลือก

แนวโน้มจะเป็นไปยัง “คุณหญิง” หรือว่า”ชัชชาติ”

1 เป็นการเสนอต่อพันธมิตรในแนวร่วมพรรคฝ่าย “ประชาธิปไตย” ที่จะต่อสู้เพื่อเอาชนะฝ่ายของ “คสช.” อันเป็นตัวแทนแห่งเผด็จการ

ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชาติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักษาชาติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อชาติ

หรือแม้กระทั่งพรรคอนาคตใหม่ ก็ตาม

ข้อเสนอที่ว่าต้องให้ได้ 375 เสียงขึ้น จึงมิได้หมายถึงพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว หากหมายถึงที่ได้มาทั้งหมดของฝ่ายที่เรียกตนเองว่า “ประชาธิปไตย”

คำประกาศจากพรรคเพื่อไทยจึงเท่ากับกำหนด “ทิศทาง”

มีความพยายามจากบางพรรคบางฝ่ายว่าการต่อสู้ทางการเมืองในการเลือกตั้งปี 2562 ได้ก่อให้เกิด “สามก๊ก”ขึ้นมาอย่างเด่นชัด

แต่ในที่สุด สถานการณ์จะค่อยๆแยกจำแนก

แยกจำแนกให้เห็นว่าเป็นการต่อสู้ 2 แนวทาง 2 ก๊กเท่านั้นในทางเป็นจริง ระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย อันนำไปสู่บทสรุปที่รวบรัด

คือ 1 เอากับคสช. กับอีก 1 ไม่เอากับคสช. ไม่มีหนทางอื่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน