วันที่ 8 กุมภาพันธ์ กลายเป็น”เส้นตาย”สำคัญในทางการเมือง ไม่เพียงแต่พรรคพลังประชารัฐจะได้คำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น

หากทุกสายตายังจับจ้องไปยังรายชื่อ”แคนดิเดต”นายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ อีกด้วย

ในทางหมุดหมายของการเลือกตั้ง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ อาจมาจากการกำหนดขึ้นให้เป็น”เส้นตาย”ของการเสนอชื่อแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค

ความสงสัยอยู่ที่ว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงต้องรอให้คำตอบในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ทั้งๆที่ก็รู้กันอยู่ว่ามีความสัมพันธ์กับพรรคพลังประชารัฐแนบแน่นอย่างยิ่ง

ทำไมต้องเลือกวันเดียวกับของพรรคไทยรักษาชาติ

แท้จริงแล้ว พรรคพลังประชารัฐเกิดขึ้นอย่างไรทำไมต้องมี 4 รัฐมนตรีเข้าไปเป็นกรรมการบริหารทั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทั้งเลขาธิการพรรค ไม่มีใครสงสัยว่าเป็นการบัญชามาจากไหน

เพียงเห็นชื่อ”พลังประชารัฐ”ก็รู้อยู่แล้วว่าใหญ่คับฟ้าระดับเดียวกันกับคสช.

แต่ทำไมต้องรอวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ด้วยเล่า

เมื่อติดตามการเคลื่อนไหวจากพรรคไทยรักษาชาติ ก็ชวนให้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะเด่นชัดยิ่งว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเริ่มมีความเด่นชัด

1 ไม่ใช่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช และไม่ใช่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญ

ยิ่งกว่านั้น 1 ไม่ใช่คนในตระกูลชินวัตร

ยิ่งกว่านั้น 1 ไม่ใช่บุคคลในทางการเมือง และไม่ใช่บุคคลในพรรค

จึงก่อให้เกิดข้อสงสัยอย่างยิ่งว่าเป็นใคร

และใครคนนั้นมีผลต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างสูง

ต้องยอมรับว่าภายในพรรคไทยรักษาชาติเก็บรายชื่อบุคคลที่จะอยู่ในฐานะ”แคนดิเดต”นายกรัฐมนตรีของพรรคไว้อย่างเป็นความลับระดับสุดยอด

ไม่มีแพร่งพรายออกภายนอก

ยืนยันจาก ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เพียงอย่างเดียวว่าให้รอวันที่ 8 กุมภาพันธ์

เป็นใครจึงมีผลสะเทือนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน