ประยุทธ์ ขาลง ทิศทาง ประชาธิปัตย์ ตัดสิน การเมือง

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ประยุทธ์ ขาลง – มีความคาดหมายบนฐานความเชื่อมั่นค่อนข้าง สูงว่า พรรคประชาธิปัตย์จะนำ 52 ส.ส.ที่มีอยู่ในมือเข้าไปผนวกรวมกับ 166 ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ

แล้วชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

เป็นความคาดหมายบนฐานข้อมูลที่ปล่อยจากพรรคพลังประชารัฐว่ามี 35 ส.ส. จากทั้งหมด 52 จะยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เห็นๆ จาก นายถาวร เสนเนียม เห็นๆ จาก นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย

จึงนำไปสู่บทสรุปที่ว่า ไม่ว่า นายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฏ์ ไม่ว่า นายกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรค ทางของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะเป็นเช่นนี้

กระนั้น หากมองจากสภาพความเป็นจริงของการ เลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หากมองจากสภาพความเป็นจริงของการเมืองหลังการเลือกตั้ง

ก็มองเห็นความไม่แน่นอนดำรงอยู่ค่อนข้างเด่นชัด

การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม ฝ่ายที่มาแย่งจำนวน ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์มิใช่พรรคเพื่อไทย มิใช่พรรคอนาคตใหม่

หากแต่เป็นพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรครวมพลังประชาชาติไทย

ความคับข้องใจที่กรุ่นอยู่ภายในพรรค ประชาธิปัตย์จึงเป็นความคับข้องใจต่อพรรคพลังประชารัฐ และต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเป็นด้านหลัก

ยิ่งกว่านั้น สภาพความเป็นจริงทางการเมืองเมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏออกมาก็เห็นได้เด่นชัด ว่าแม้พรรคพลังประชารัฐจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

แต่รัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ได้นานแค่ไหน

เพราะแม้กระทั่งบทสรุปจากภายในพรรคภูมิใจไทยก็ว่าไม่น่าจะเกินเดือนกันยายน เมื่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เข้าสภาก็เรียบร้อย

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จึงฟันธงว่าจะมีเลือกตั้งในเดือนธันวาคม 2562

ความเป็นจริงที่เริ่มเห็นอย่างเด่นชัดเช่นนี้มีหรือที่เกจิทางการเมืองภายในพรรคประชาธิปัตย์จะมองไม่ออก แทงไม่ทะลุ

ฐานข้อมูลอย่างนี้ ทิศทางอย่างนี้ พรรคที่มากด้วยความจัดเจนจึงมิได้มองแค่ ณ วันนี้ หากแต่จำเป็นต้องมองไปยัง ณ วันพรุ่งนี้

เป็นวันพรุ่งนี้เมื่อ “คสช.” หมดอำนาจ

พลันที่มีการยุบสภาในเดือนกันยายน พลันที่กำหนดวันเลือกตั้งในเดือนธันวาคม เท่ากับชี้อนาคตของพรรคพลังประชารัฐว่าไปยากอย่างยิ่ง

คสช.ไปยากอย่างยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งไปยากระดับยากส์

หักทอง-4พค62.tif

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน