การรุกเข้าไปสู่การเมืองระดับท้องถิ่นไม่ว่าอบต. ไม่ว่าอบจ.ของพรรคอนาคตใหม่ เป็น “ไฟท์บังคับ” ที่พรรคอนาคตใหม่ไม่อาจปัดปฏิเสธได้

อย่าได้แปลกหากหลังประกาศในงาน Future is Now เพียงวันเดียวพรรคอนาคตใหม่ก็เดินหน้า

เห็นได้จากคำเชิญชวนอย่างเป็นทางการ

เห็นได้จากคำอธิบายอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค

จังหวะก้าวนี้มีความสำคัญตามแนวทางทะลวงไปยัง “รัฐราชการรวมศูนย์” อย่างเป็นระบบ

หากไม่ทำคำว่า “อนาคตเรากำหนดเอง” ก็ไม่เป็นจริง

จากเดือนมีนาคม 2561 ถึงเดือนมีนาคม 2562 แฟนานุแฟนของพรรคอนาคตใหม่ หรือที่เรียกว่า Futerista อาจคุ้นกับการคัดค้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.

อาจถูกตรึงอยู่ที่สโลแกนขอให้รัฐประหาร 2557 เป็นรัฐประหารครั้งสุดท้าย

แต่เป้าหมายเหล่านี้จะไม่สำเร็จเลย หากพรรคอนาคตใหม่ไม่แตะไปยังโครงสร้างทางการปกครองอย่างที่เรียกว่า “รัฐราชการรวมศูนย์”

เพราะ “รัฐราชการรวมศูนย์” แข็งแกร่งอย่างยิ่งในยุคหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ขณะเดียวกัน พรรคการเมืองแบบ “เก่า” ไม่ว่าจะพรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคที่เติบใหญ่ในห้วงรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 อย่างพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย

ล้วนสัมพันธ์อยู่กับ “รัฐราชการรวมศูนย์” อย่างแนบแน่น

พรรคอนาคตใหม่อาจแจ้งเกิดได้จากการเลือกตั้งเดือนมีนาคม แต่การแจ้งเกิดนี้ยังง่อนแง่น โงนเงน ไม่แข็งแกร่ง เพราะยังมี “รัฐราชการรวมศูนย์” เป็นโครงครอบอยู่

มีแต่ต้องเข้าไปสู่การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเท่านั้นจึงสำเร็จ

หากพรรคอนาคตใหม่ไม่มีรากฐานอยู่ที่การเมืองระดับท้องถิ่น การเมืองระดับชาติก็ไม่มีอนาคต ความสำเร็จที่ได้มาก็ไม่ยั่งยืน มั่นคง

การปักธงความคิดที่อบต.และอบจ. จึงทรงความหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน