เปิดข้อกม.แผนฟื้นฟูบินไทย

บทความพิเศษ

เปิดข้อกม.แผนฟื้นฟูบินไทย – หมายเหตุ – กรณีครม.เห็นชอบให้บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) ดําเนินการตามแผนฟื้นฟูธุรกิจภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง ตามพ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 เฟซบุ๊ก “สื่อศาล” เพจให้ข้อมูลข่าวสารของศาลยุติธรรม ได้เผยแพร่บทความข้อกฎหมายเกี่ยวกับ “กระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการลูกหนี้ของไทยเเละสหรัฐอเมริกา” ซึ่งเขียนโดย ดร.กนก จุลมนต์ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา และรองเลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายเนติบัณฑิตยสภา

ทำไมการยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัทลูกหนี้ในประเทศไทย จึงอาจไม่เพียงพอต่อการระงับการบังคับชำระหนี้จากเจ้าหนี้

ภายหลังจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการไว้พิจารณา ตามมาตรา 90/9 การบินไทยจะได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ล้มละลาย ซึ่งจะเกิดสภาวะพักการชำระหนี้ หรือสภาวะหยุดนิ่ง (automatic stay หรือ moratorium) มีขอบเขตและรายละเอียดตามมาตรา 90/12

มีเนื้อหาหลักๆ คือ ห้ามเจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้เป็นคดีแพ่ง ห้ามมิให้เจ้าหนี้เสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาด ห้ามเจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้เป็นคดีล้มละลาย ในกรณีที่มีการฟ้องคดีหรือเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดไว้ก่อนแล้ว ให้งดการพิจารณาไว้ ห้ามมิให้เจ้าหนี้มีประกันบังคับชำระหนี้เอาแก่ทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย เป็นต้น

สภาวะพักการชำระหนี้ดังกล่าว มีผลเฉพาะทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ในประเทศไทยเท่านั้น ตามพ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 177 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามหลักดินแดน (territorialism)

ดังนั้น เจ้าหนี้จะเป็นเจ้าหนี้ไทยหรือเจ้าหนี้ต่างประเทศยังสามารถดำเนินการฟ้องร้อง และหรือบังคับคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ไทยที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศได้ เพราะผลตามกฎหมายไทยไม่ได้มีผลคุ้มครองไปถึงทรัพย์สินที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ

บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยไปยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการในสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่

เงื่อนไขในการยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการในสหรัฐ ไม่ได้คำนึงถึงสัญชาติของลูกหนี้ คงพิจารณาจากจุดเกาะเกี่ยวหรือจุดเกี่ยวพันกับสหรัฐว่า ลูกหนี้พักอาศัยหรือมีภูมิลำเนาหรือมีสถานประกอบธุรกิจ หรือมีทรัพย์สินอยู่ในสหรัฐหรือไม่ ตามกฎหมายล้มละลายของสหรัฐอเมริกา (US Bankruptcy Code) มาตรา 109

ประเด็นจุดเกาะเกี่ยวเรื่องทรัพย์สินในคดีที่ผ่านๆ มา ศาลสหรัฐอเมริกาแปลความอย่างกว้างว่า แค่มีเงินในบัญชีเงินฝากที่สหรัฐ ก็ถือว่ามีทรัพย์สินในสหรัฐแล้ว ฉะนั้นหากบริษัทลูกหนี้มีทรัพย์สินในสหรัฐแล้วก็ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการได้

แต่หากไม่มี ก็สามารถเปิดบัญชีเงินฝากและฝากเงิน ถือว่ามีจุดเกาะเกี่ยวเรื่องทรัพย์สินในสหรัฐ และสามารถยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการในสหรัฐได้

การยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการในสหรัฐ สำคัญอย่างไร

การยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการในสหรัฐ จะเกิดสภาวะพักการชำระหนี้แก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ในสหรัฐเป็นหลัก การจะก่อให้เกิดสภาวะพักการชำระหนี้แก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ในประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐ ต้องใช้กระบวนพิจารณาในส่วนที่เรียกว่า การล้มละลายหรือการฟื้นฟูกิจการข้ามชาติ ในหมวด 15

ซึ่งกระบวนการเริ่มจากผู้จัดการทรัพย์สิน หรือตัวแทนของคดีฟื้นฟูกิจการที่สหรัฐไปยื่นคำร้องขอให้ประเทศต่างๆ ที่บริษัทลูกหนี้มีทรัพย์สินตั้งอยู่ รับรองว่ามีกระบวนการฟื้นฟูกิจการเกิดขึ้นที่สหรัฐแล้ว ขอให้เกิดสภาวะพักการชำระหนี้ในประเทศนั้นๆ ด้วย

เหตุที่ผู้จัดการทรัพย์สินของสหรัฐสามารถกระทำดังกล่าวได้ เนื่องจากสหรัฐมีการอนุวัตกฎหมายแม่แบบว่าด้วยการล้มละลายข้ามชาติ ของคณะกรรมาธิการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (UNCITRAL) เป็นกฎหมายภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ศาลของประเทศผู้ถูกร้องขอจะรับรองกระบวนการฟื้นฟูกิจการในสหรัฐ และก่อให้เกิดสภาวะพักการชำระหนี้ตามที่ผู้แทนจากสหรัฐร้องขอหรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับกฎหมายล้มละลายภายในประเทศนั้นๆ ด้วย

แท้จริงแล้ว หากหวังผลเฉพาะในส่วนบทบัญญัติเรื่องการล้มละลายหรือการฟื้นฟูกิจการข้ามชาติ ไม่จำเป็นเสมอไปว่าต้องไปยื่นที่สหรัฐ เนื่องจากมีประเทศหรือรัฐกว่า 40 ประเทศ ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายล้มละลายของตนเอง ให้มีในส่วนของการล้มละลายหรือฟื้นฟูกิจการข้ามชาติด้วย เช่น สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี เป็นต้น

ในส่วนของประเทศไทยยังไม่มีการอนุวัตกฎหมายล้มละลายข้ามชาติเข้าเป็นกฎหมายภายใน แม้ครม. จะรับหลักการในเรื่องนี้ตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค. 2559 แล้วก็ตาม

สรุปกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ตามหมวด 11 แห่งกฎหมายล้มละลายของสหรัฐ

1.การเริ่มกระบวนพิจารณา โดยการยื่นคำร้องขอโดยลูกหนี้หรือเจ้าหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอก็ได้ คดีส่วนใหญ่ลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอ

2.หากลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอ จะเป็นไปตามเงื่อนไขในมาตรา 301 ซึ่งไม่มีหลักเกณฑ์ว่าลูกหนี้ต้องมีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดได้ ขอเพียงแค่ลูกหนี้มีหนี้ และไม่มีหลักเกณฑ์เรื่องจำนวนหนี้ขั้นต่ำ หมายความว่ามีหนี้เป็นจำนวนเท่าใดก็ได้

อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ ลูกหนี้ที่ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการมักมีปัญหาเรื่องกระแสเงินสดไม่พอชำระหนี้ หรือมีทรัพย์สินไม่พอกับหนี้สิน เพราะเงื่อนไขข้อหนึ่งในการที่ศาลจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนหรือไม่ คือ การที่ผู้ร้องขอต้องยื่นคำร้องขอโดยสุจริตตามมาตรา 1129 (a)(3)

3.คดีเริ่มต้นเมื่อศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอ ผลประการหนึ่งคือ จะเกิด an order for relief ถ้าแปลตรงตัวจะแปลว่า คำสั่งที่ช่วยบรรเทาลูกหนี้จากภาระหนี้ที่มีทั้งหมด หากแปลเทียบเคียงกับกฎหมายไทยคือ คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ

ผลอีกประการหนึ่งคือ เกิดสภาวะพักการชำระหนี้ตามมาตรา 362 ซึ่งมีเนื้อหาเทียบเคียงได้กับมาตรา 90/12 ตามพ.ร.บ.ล้มละลายฯ

4.การยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ ผู้ร้องขอจะยื่นแผนฟื้นฟูกิจการมาพร้อมคำร้องขอก็ได้ ตามมาตรา 1121(a) กรณีนี้จะช่วยให้กระบวนการเร็วขึ้น หรือผู้ร้องขอจะค่อยมาจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการภายหลังคดีเริ่มต้นแล้วก็ได้ โดยกฎหมายให้โอกาสลูกหนี้เป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูก่อนในช่วง 120 วันแรกนับจากวันเริ่มต้นคดี ตามมาตรา 1121 (b)

หลังจากนั้น หากลูกหนี้ยังไม่ยื่นแผนฟื้นฟูกิจการผู้มีส่วนได้เสียคนอื่นๆ โดยส่วนใหญ่คือ เจ้าหนี้ มีสิทธิ์ยื่นแผนฟื้นฟูกิจการให้ที่ประชุมเจ้าหนี้พิจารณาได้

5.หลักเกณฑ์ที่ศาลใช้พิจารณาว่า จะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนหรือไม่ เป็นไปตามมาตรา 1129 เงื่อนไขสำคัญ ได้แก่ เจ้าหนี้แต่ละกลุ่มยอมรับแผนตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดตามมาตรา 1126 เจ้าหนี้แต่ละรายได้รับชำระหนี้ไม่น้อยกว่าสัดส่วนที่จะได้รับชำระหนี้

หากลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย การยื่นคำร้องขอเป็นไปโดยสุจริต ภายหลังศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนแล้วลูกหนี้มีแนวโน้มที่จะไม่ล้มละลายหรือไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการอีก เว้นแต่เป็นกรณีที่ระบุไว้ในแผน เป็นต้น

ข้อสังเกตเกี่ยวกับระยะเวลาดำเนินการตามแผนตามมาตรา 1123 คือ กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ว่าเป็นระยะเวลาเท่าใด แล้วแต่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ตกลงกัน แต่ตามกฎหมายไทยตามมาตรา 90/42 (9) กำหนดระยะเวลาดำเนินการตามแผนไว้ไม่เกิน 5 ปี ขยายได้อีกไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี ตามมาตรา 90/63 วรรคสอง

อนึ่ง ระยะเวลาชำระหนี้จริงอาจยาวกว่าระยะเวลาดำเนินการตามแผนได้ ระยะเวลาดำเนินการตามแผนคือ ระยะเวลาที่บริษัทลูกหนี้ต้องบริหารกิจการภายใต้การกำกับของศาลล้มละลายกลางและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สังกัดสำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม

6.เมื่อศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนตามมาตรา 1129 ถือเป็นวันที่คดีฟื้นฟูกิจการสิ้นสุดไปจากศาลเลย เพราะลูกหนี้จะหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนตามมาตรา 1141 (d)(1)(A) โดยบริษัทลูกหนี้และเจ้าหนี้ต้องผูกมัดตามแผนและลูกหนี้มีหน้าที่ต้องชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่ระบุไว้ในแผนนอกศาล

ตรงนี้เป็นจุดที่เป็นประโยชน์อีกจุดหนึ่งของการยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการที่สหรัฐ เนื่องจากระยะเวลาภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการจะสั้นกว่าของไทยเป็นอย่างมาก

เนื่องจากตามกฎหมายไทย เมื่อศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนแล้ว บริษัทลูกหนี้ยังต้องดำเนินการตามแผนภายในระยะเวลาดำเนินการตามแผนซึ่งไม่เกิน 5 ปี เว้นแต่มีการขยาย ให้แล้วเสร็จหรือไม่แล้วเสร็จ เมื่อศาลมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการตามมาตรา 90/75 จึงทำให้คดีฟื้นฟูกิจการสิ้นสุดลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน