กรณี “เงินทอน” อันเกี่ยวกับงบประมาณวัด กำลังดำเนินไปเหมือน กับกรณี “รถหรู”

อึกทึก ครึกโครม ในตอนต้น

แต่ในที่สุดก็จะค่อยๆเงียบหาย อย่างชนิดที่สำนวนอีสานระบุอย่างมองเห็นภาพ และได้ยินเสียง

นั่นก็คือ “มิดอิมซิม”

อาการเงียบหายของกรณี”รถหรู”วัดจากความอึกทึก ครึกโครม ซึ่งเคยพุ่งเป้าไปยังวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

แล้วเป็นยังไงเมื่อมีคำพิพากษาของ”ศาล”

กรณีของ “เงินทอน” ก็เช่นเดียวกัน ล้วนเริ่มต้นจาก “2 พ.”แล้วก็ค่อยเข้ารูปเข้าร่าง

เป้าหมายอยู่ที่”คลองหลวง” แต่ก็ไปไม่ถึง

ลองไล่เรียงรายละเอียดดู แม้ว่าจุดเริ่มต้นอาจอึกทึกครึกโครมจากวัด ไม่ว่าภาคเหนือ ไม่ว่าภาคใต้

แต่ในที่สุดก็อยู่ที่ “พศ.”

คนที่ ป.ป.ช.ให้ความสนใจในการตรวจสอบมิใช่พระสังฆาธิการ หากแต่เป็น “ข้าราชการ”

เป็นคน “หัวดำ” ไม่ใช่คน “หัวโล้น”

เพราะว่าต้นตออย่างแท้จริงมาจาก”ข้าราชการ”ในสังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)

วัดเสมอเป็นเพียง “ปลายน้ำ”

คำว่า “วัดครึ่ง กรรมการครึ่ง” จึงเน้นเนื้อๆไปยัง”ข้าราชการ” ที่นำเอา “งบประมาณ”ลงไปต่างหาก

ปมเงื่อนอยู่ตรง “ผลสะเทือน”

แน่นอน ผลสะเทือนนี้อาจกระทบไปยังแต่ละวัดที่เข้าไปเกี่ยวพันกับงบประมาณและผลประโยชน์

แต่เนื้อๆ คือ “พศ.”

กระบวนการ “แถลง” ของพศ.ต่างหากที่ก่ออาการหงุดหงิดให้เกิดขึ้นในวงการ “พระ”

นั่นก็คือ แถลงแบบ “ขยายวง”

เป็นการแถลงตามความเคยชินของ “ตำรวจ” ตามความเคยชินในแบบ “ดีเอสไอ” เท่ากับเป็นการให้ยาเพื่อฆ่า”พระ”มากกว่าที่จะรักษา “วัด”

สายตาของ”พระ”จึงเหล่ไปยัง “พศ.”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน