เตรียมฌานกิจศพ ซีอุย แซ่อึ้ง

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บัญชาการเรือนจำบางขวาง ได้ทำหนังสือถึง คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เรื่อง กำหนดการฌาปนกิจศพ น.ช.ลีอุย หรือ ซีอุย แซ่อึ้ง โดยกำหนดให้เผาในวันพฤหัสบดีที่ 23 ก.ค.นี้

ทั้งนี้ หน่วยนิติเวชวิทยา ในแผนกพยาธิวิทยา ได้ติดต่อขอรับศพซีอุยจากกรมราชทัณฑ์มาศึกษาด้วยการผ่าตรวจสมอง จากนั้นเก็บรักษาศพด้วยการฉีดฟอร์มาลินเข้าหลอดเลือด นำไปแช่น้ำยารักษาศพ 1 ปี โดยไม่ได้นำอวัยวะภายในออกจากศพ แล้วจึงใส่ไว้ในตู้กระจก โดยภาควิชานิติเวชศาสตร์ ทำบุญที่พิพิธภัณฑ์ทุกปี ในวันที่ 5 ตุลาคม

 

กรมราชทัณฑ์มีกำหนดให้มีการเผาศพนายซีอุยในวันที่ 23 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. โดยจะเชิญคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยานในการฌาปนกิจที่วัดบางแพรกใต้ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี

พระกิติศักดิ์ พลูปั้น พระลูกวัดบางแพรกใต้ กล่าวว่า ทางวัดได้รับการประสานจากเรือนจำกลางบางขวางว่าวันที่ 23 ก.ค.63 จะนำศพนายซีอุยมาฌาปนกิจ โดยจะนำศพมาตั้งรอที่เมรุ เวลา 09.00 น. ทำบุญเลี้ยงพระเพลก่อน จากนั้นเวลา 12.00 น.ถึงจะทำพิธีฌาปนกิจ และเก็บกระดูกนายซีอุย

เรื่องราวของซีอุย เป็นพาดหัวข่าวใหญ่พาดหัวหนังสือพิมพ์ เมื่อประมาณ พ.ศ.2501-2502 ในฐานะฆาตกรโหดที่สังหารเด็กแล้วควักตับไปรับประทานจนได้รับฉายาว่า “ซีอุยกินตับ” จนผู้ใหญ่มักนำมาขู่เด็ก โดยซีอุย นั้นมีความผิดสังหารเด็ก 7 ราย และต้องโทษประหารชีวิต

ภายหลังได้ค้นพบหลักฐานว่า ซีอุย อาจไม่ใช่ฆาตกรตัวจริง และอาจไม่มีการกินอวัยวะตามตำนาน จึงเรียกร้องเข้าชื่อขอให้พิพิธภัณฑ์ยุติการจัดแสดงร่างของนายซีอุย เพื่อคืนศักดิ์ศรีและความยุติธรรมให้แก่เขา

โดยการนำร่างของเขาไปประกอบพิธีทางศาสนาลบล้างตราบาป “มนุษย์กินคน” จนนำมาซึ่งการพิจารณาจากศิริราชและคณะกรรมการมีมตินำร่างออกจากพิพิธภัณฑ์และนำมาสู่การเผาทำพิธีทางศาสนาจบตำนานซีอุยในที่สุด

ปิดตำนานมนุษย์กินคน

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนพ.ค.2562 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ กล้าเปลี่ยน \7 ได้ทวีตข้อความว่า ปัจจุบัน เค้ารู้กันหมดแล้วว่า ซีอุย ไม่ได้ฆ่าและกินเครื่องในมนุษย์ ซึ่งเกิดจากการถูกใส่ร้าย แต่พิพิธภัณฑ์ที่โรงพยาบาลก็ยังเอาศพของเขามาโชว์และยังตราหน้าว่าเป็น ‘มนุษย์กินคน’ แม้คนตาย ศพก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรม

ต่อมาเว็บไซต์ change.org ให้ประชาชนในโซเชียลร่วมลง มีหัวข้อ นำร่างซีอุย แซ่อึ้งออกจากพิพิธภัณฑ์ศิริราช คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ล้างฉายามนุษย์กินคน สร้างโดยคุณ ฟาโรห์ จักรภัทรานน

เพจ Poetry of Bitch ได้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับ ‘ซีอุย’ ระบุว่า

1.มีคนทวิตรูปศพของซีอุย แซ่อึ้ง ชายชาวจีนซึ่งถูกประหารชีวิตเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ซึ่งตั้งโชว์อยู่ในตู้ของพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ ร.พ.ศิริราช พร้อมป้ายชื่อว่า “มนุษย์กินคน”

แพะรับบาปคดีสังหารเด็ก 6 คน

2.นำไปสู่การพูดคุยเรื่องซีอุยตกเป็น “แพะรับบาป” คดีสังหารเด็ก 6 คนแล้วกินเครื่องในที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งที่พยานหลักฐานหลายอย่างชี้ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์

3.คาดว่าซีอุยตกเป็นจำเลยสังคมเพราะหนังสือพิมพ์ในยุคนั้นเผยแพร่ข่าวลือโดยขาดการกลั่นกรอง ประกอบกับการที่ซีอุยไม่มีญาติพี่น้องและพูดไทยไม่ได้ จึงถูกเลือกเป็นแพะ

4.ซีอุยในวัย 19 อพยพหนีความอดอยากจากซัวเถา มารับจ้างเฝ้าสวนอยู่ที่ทับสะแก เขาเป็นคนเรียบร้อย ขยันทำงาน และชอบให้ขนมเด็กๆกิน

5.ญาติของผู้ตาย คนในพื้นที่และนายจ้างของซีอุย ไม่มีใครเชื่อว่าเขาเป็นคนทำ และช่วยกันยืนยันอย่างหนักแน่นมาตลอด แต่ก็ไม่อาจช่วยให้ซีอุยรอดพ้นความตายได้

 

6.เหยื่อคนหนึ่งชื่อ “ด.ญ.บังอร” รอดชีวิตมาได้ เธอเห็นหน้าฆาตกรชัดเจน และบอกว่าคนทำคือ “นายเกลี้ยง” ไม่ใช่ซีอุย

7.นายเกลี้ยงเป็นชายสติไม่สมประกอบ ชอบกินของดิบ เขาเป็นพี่ชายเมียปลัดอำเภอที่มีอิทธิพลในพื้นที่ในยุคนั้น มีคนพบชิ้นเนื้อและตับของ “ด.ญ.นิด” เหยื่อคนที่สอง อยู่ในกระเป๋ากางเกงของนายเกลี้ยงด้วย

8.ซีอุยถูกจับและถูกหว่านล้อมให้ยอมรับ โดยบอกว่าจบเรื่องแล้วจะส่งกลับบ้านที่เมืองจีน หลังถูกจับซีอุยร้องไห้อยากกลับไปหาครอบครัวทุกวัน เขาจึงตอบตกลง แต่ต้องล้มทั้งยืนเมื่อถูกตัดสินประหารชีวิตแทนการส่งกลับบ้าน

ชี้ดองศพตั้งโชว์ละเมิดความเป็นมนุษย์

9.ซีอุยรับสารภาพก็จริง แต่คำสารภาพของซีอุยไม่ตรงกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ

10.รูปซีอุยอ้าปากที่กลายเป็นภาพในตำนาน หลอกหลอนและตอกย้ำให้คนไทยเชื่อว่าซีอุยกินคน ที่แท้เป็นภาพตอนเขากำลังหาวแล้วนักข่าวถ่ายได้พอดี

 

11.ละครและหนังไทยหลายเรื่องทำซ้ำเรื่องซีอุยกินคน ยิ่งตอกย้ำภาพให้ฝังลึกในใจคนไทย แม้หลังจากนั้นจะมีสารคดี รายการ และบทความต่างๆนำเสนอว่าซีอุยเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ลบภาพซีอุยกินคนไม่ได้

12.หลายคนเห็นตรงกันว่า ต่อให้ซีอุยทำจริงก็ไม่สมควรเอาร่างของเขามาดองและตั้งโชว์แบบนี้ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆแล้ว ยังละเมิดความเป็นมนุษย์ด้วย

13.มีคนตั้งแคมเปญล่ารายชื่อใน change .org ให้พิพิธภัณฑ์ยุติการจัดแสดงร่างของซีอุย คืนศักดิ์ศรีและความยุติธรรมให้ซีอุย ด้วยการนำร่างของเขาไปประกอบพิธีทางศาสนา ลบล้างตราบาปมนุษย์กินคน และเผยแพร่ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคดีซีอุยเสียใหม่

 

เผยผลอาการทางจิตซีอุย

จากการค้นคว้าที่มาของการนำร่าง นายซีอุย แซ่อึ้ง มาจัดแสดงในตู้กระจกหลังการประหารชีวิตเพื่อทำการศึกษาสมอง พบรายละเอียดในหนังสือ 120 ชิ้นเอกของศิริราช จัดพิมพ์โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี 2551 ซึ่งมีการตีพิมพ์ภาพและระบุข้อมูลเกี่ยวกับซีอุยไว้ว่าระหว่างที่ซีอุยอยู่ในเรือนจำบางขวาง คณะแพทย์ได้ตรวจสอบความผิดปกติของร่างกายและจิตใจ เพื่อตรวจดูว่า การกระทำความผิดนี้จะได้รับการยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 หรือไม่

ปรากฏว่าไม่พบความวิปริตทางจิต ชนิดทารุณผู้อื่น ไม่เป็นโรคอยากกินเนื้อมนุษย์ (Canibalism) ความผิดที่กระทำจึงไม่ได้รับการยกเว้นโทษ ดังนั้น จึงถูกประหารชีวิตเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ.2502

ทาขี้ผึ้งทุก 2 ปี เพื่อป้องกันเชื้อรา

ต่อมา ศ.นพ.สงกรานต์ นิยมเสน หัวหน้าหน่วยนิติเวชวิทยา ในแผนกพยาธิวิทยา ติดต่อขอรับศพซีอุยจากกรมราชทัณฑ์มาศึกษาด้วยการผ่าตรวจสมอง จากนั้นเก็บรักษาศพด้วยการฉีดฟอร์มาลินเข้าหลอดเลือด นำไปแช่น้ำยารักษาศพ 1 ปี โดยไม่ได้นำอวัยวะภายในออกจากศพ แล้วจึงใส่ไว้ในตู้กระจก

ภาควิชานิติเวชศาสตร์ ทำบุญที่พิพิธภัณฑ์ทุกปี ในวันที่ 5 ตุลาคม และดูแลสภาพร่างซีอุยด้วยการทาขี้ผึ้งทุก 2 ปี เพื่อป้องกันเชื้อรา

หนังสือเล่มดังกล่าวของศิริราชยังระบุด้วยว่า ในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บหลักฐานในคดีสำคัญๆ เช่น นวลฉวี แต่ซีอุยโดดเด่นที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน