สผ.เปิดรับฟัง “แนวทางการศึกษาและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านการบดบังแสงอาทิตย์ และด้านการเปลี่ยนแปลงของลม จากการก่อสร้างอาคาร”

ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม แนวทางปฏิบัติสำหรับการนำ “แนวทางการศึกษาและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านการบดบังแสงอาทิตย์ และด้านการเปลี่ยนแปลงของลม จากการก่อสร้างอาคาร” ไปใช้ในการจัดทำรายงาน EIA เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการสผ.

มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันของทุกภาคส่วน เนื่องจากหลายฝ่ายยังคงมีความกังวล และยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ต่อการใช้แนวทางดังกล่าว โดยได้เน้นย้ำว่า แนวทางฯ ที่กำหนดขึ้นไม่ใช่กฎหมายและไม่ได้มีข้อห้ามในการก่อสร้างอาคารสูงหรืออาคารใหญ่พิเศษแต่อย่างใด และได้เปิดโอกาสให้ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนแนวคิดและอภิปรายในหลักวิชาการเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน

รวมถึงได้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งสามารถนำมาปรับปรุงแนวทางดังกล่าวให้มีความเหมาะสมในเชิงเทคนิค และมีความชัดเจนในทางปฏิบัติมากยิ่งขึ้น เพื่อให้แนวทางดังกล่าวถูกนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลต่อไป โดยที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นสำคัญ ๆ ขึ้นมาหารือ อาทิ

ประเด็นที่ 1 แนวทางฯ นี้ เมื่อประกาศใช้แล้ว จะถูกนำไปใช้เป็นกรอบในการจัดทำและพิจารณารายงานของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ (คชก) สผ/คชก กทม/คชก จังหวัด และ คชก พื้นที่คุ้มครอง เพื่อสร้างมาตรฐานการประเมินและการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบที่เหมาะสมในรายงาน EIA โครงการประเภทอาคาร

ประเด็นที่ 2 การปรับปรุงรายละเอียดเนื้อหาแนวทางฯ ด้านการบดบังแสงอาทิตย์ให้มีความเหมาะสมทางวิชาการ และเป็นไปได้ในทางปฏิบัติเชิงเทคนิค เช่น อาคารประเภทใดที่ควรทำการประเมิน วิธีการและช่วงเวลาประเมินที่มีความเหมาะสม การสื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่อาจได้รับผลกระทบ รวมทั้งแนวทางการกำหนดมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เป็นต้น


ประเด็นที่ 3 การปรับปรุงรายละเอียดเนื้อหาแนวทางฯ ด้านการเปลี่ยนแปลงของลม เช่น การกำหนดวิธีการและขั้นตอนที่เหมาะสมของการประเมินโดยใช้แบบจำลอง ลักษณะของอาคารที่ควรทำการประเมิน ระยะเวลาที่เหมาะสมของข้อมูลนำเข้าด้านอุตุนิยมวิทยา และการอ้างอิงเกณฑ์ของระดับผลกระทบที่เหมาะสมสำหรับวิถีชีวิตและกิจกรรมของประชาชน เป็นต้น

ทั้งนี้ ในการประชุมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีผู้เข้าร่วมการประชุมที่ สผ ประมาณ 20 คน และมีผู้เข้าร่วมประชุมผ่านทางระบบออนไลน์มากกว่า 300 คน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วย ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณารายงาน EIA ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิในคชก ชุดที่เกี่ยวข้อง นิติบุคคลผู้มีสิทธิจัดทำรายงานฯ เจ้าของโครงการ ตัวแทนจากสมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์ สมาคมอาคารชุด สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร นักวิชาการจากสถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ สผ. โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันในเบื้องต้น รวมทั้งได้รับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมทางวิชาการที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ทั้งนี้ สผ. ยังเปิดรับความคิดเห็นเพิ่มเติมต่อแนวทางฯ นี้ จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ผ่านทางอีเมล [email protected] และ สผ.จะได้นำผลจากการประชุมรวมทั้งข้อคิดเห็นเพิ่มเติมที่ได้รับ ไปพิจารณาปรับปรุงและจัดทำแนวทางฯ ให้มีความเหมาะสมต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน