ศึกการเมือง สุเทพปะทะจตุพร ศึกแบงก์พัน
ศึกการเมือง – ปฏิบัติการ “เดินคารวะแผ่นดิน” ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มิได้เป็นกิจกรรมอันเกิดขึ้นในห้วงแห่งการจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
แท้จริงแล้ว เกิดในห้วงแห่ง “ชัตดาวน์”
และหากย้อนหลังไปยิ่งกว่านั้น ความคิดในลักษณะนี้ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผุดพร่างขึ้นภายหลังความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เห็นว่าชัยชนะของพรรคเพื่อไทยมาจาก “คนเสื้อแดง”
จากนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงค่อยเดินสายในลักษณะออกไปพบกับประชาชนอย่างเงียบๆ และค่อยอึกทึกครึกโครมในเดือนตุลาคม 2556 เมื่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย
ฟ้าให้ “สุเทพ” มาเกิด ก็ต้องมี นายจตุพร พรหมพันธุ์
ต้องยอมรับว่าความบันดาลใจ “เดินคารวะแผ่นดิน” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีรากงอกมาจาก บทบาทของนปช.คนเสื้อแดงที่นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์
2 คนนี้ล้วนเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี
หาก “เดินคารวะแผ่นดิน” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีจุดเริ่มต้นจากผลสะเทือนของนปช.คนเสื้อแดงที่นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่มีต่อพรรคเพื่อไทย
ก็ต้องยอมรับว่าการแตก “แบงก์พัน” เป็น “แบงก์ย่อย” ก็มีความเป็นมา
น่าสนใจก็ตรงที่ว่าการแตกจากพรรคเพื่อไทยมาเป็นพรรคเพื่อชาติของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็ได้รับ ผลสะเทือนจากการแตกสาขาของกลุ่มกปปส.ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำไมจึงว่าเช่นนั้น
จากการแจกแจงของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เขาเห็นบทบาทแม่น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอมาจากกปปส.และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
1 เห็นได้จากภายในพรรคประชาธิปัตย์
1 เห็นได้จากการร่วมกันสร้างพรรคพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าจะเป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่าจะเป็น นายสุริยะใส กตะศิลา
1 เห็นได้จากที่ทยอยกันไปอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ
1 เห็นได้จากที่เปิดตัวออกมาอย่างเด่นชัดผ่านพรรคพลังธรรมใหม่ และโดยเฉพาะพรรคประชาชนปฏิรูปของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน
เท่าที่เห็นๆ ก็แตกพรรคไปแล้ว 5 พรรคด้วยกัน
อุบัติแห่งพรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคประชาชาติ อันแยกออกมาจากพรรคเพื่อไทยจึงเท่ากับเป็นกลยุทธ์ “เกลือจิ้มเกลือ”
เป้าหมาย 1 จิ้มโดยตรงไปยัง “รัฐธรรมนูญ”
เป้าหมาย 1 จิ้มโดยตรงไปยัง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคประชาชนปฏิรูป
ใครเป็นหมู่ ใครเป็นจ่า รู้กัน “วันเลือกตั้ง”