2 แพร่ง การเมือง 24 มีนาคม ปัจจัย ชี้ขาด พรรคใด อย่างไร
วิเคราะห์การเมือง – ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งที่เด่นชัดเป็นอย่างมากย่อมเป็นการสัประยุทธ์ต่อกรระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ
โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น “โจทย์”
นั่นก็คือ พรรคพลังประชารัฐชูผลงานและความสำเร็จของคสช.โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นจุดขายอย่างสำคัญ
นั่นก็คือ พรรคเพื่อไทยชูการต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จากนั้นก็เกิดพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป จากนั้นก็เกิดพรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเพื่อธรรม
ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ มีเสียงจากพรรคภูมิใจไทย มีเสียงจากพรรคชาติไทยพัฒนา มีเสียงจากพรรคชาติพัฒนา
และก็มีเสียงจากพรรคอนาคตใหม่ มีเสียงจากพรรคสามัญชน
พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย อาจยังไม่แจ่มชัดในเบื้องต้นแต่ในท่ามกลางการเคลื่อนไหวก็เริ่มมีความแจ่มชัด
ตรงกันข้าม พรรคอนาคตใหม่ พรรคสามัญชน แจ่มชัดตั้งแต่ต้น
ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา คลุมเครือๆ อ้างแต่ผลการเลือกตั้งแต่ไม่ยอมสร้างจุดที่แจ่มชัดเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น
เมื่อมาถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งการจัดขบวนของแต่ละพรรคการเมืองก็เริ่มแจ่มชัดกลายเป็น 2 ขั้ว 2 แนวทางอย่างเปิดเผย
1 คือปีกทางด้านพรรคพลังประชารัฐที่แวดล้อมด้วยพรรครวมพลังประชาชาติไทย
1 คือปีกทางด้านพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเพื่อธรรม โดยมีพรรคอนาคตใหม่เข้ามายืนอยู่ในแนวเดียวกัน
กระนั้นก็ยังมีอีกแนวหนึ่งซึ่งรอคอยด้วยความหวั่นไหว
หวั่นไหวว่าจะเอนไปทางพรรคพลังประชารัฐ หวั่นไหวว่าจะเอนไปทางพรรคเพื่อไทย หรือหวั่นไหวว่าตนเองจะสร้างโอกาสได้มากน้อยเพียงใด
ในที่สุดผลของการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมก็จะชี้ขาดและทำให้แต่ละพรรคการเมืองที่ยังไม่แจ่มชัดจำเป็นต้องแจ่มชัด
แจ่มชัดว่าจะเลือกหนทางสายใด
เลือกหนทางเดียวกันกับของพรรคพลังประชารัฐ หรือเลือกหนทางเดียวกันกับของพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่
เมื่อท่านพูดคนจะฟัง เมื่อท่านลงมือทำ คนจะเชื่อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :