ชัยชนะ เลือกตั้ง
ธนาธร แห่ง อนาคตใหม่
กลายเป็น “ภัย”
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ชัยชนะ เลือกตั้ง – ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่าน “การเลือกตั้ง” ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านการจับขั้วตั้งเป็น “แนว” ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย
แต่กลิ่นอายของ “สถานการณ์” กลับวนลูป
วนลูปไปเหมือนกับสถานการณ์ในห้วงก่อนรัฐ ประหาร เมื่อเดือนกันยายน 2549 สถานการณ์ในห้วงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เพียงแต่ไม่ใช่ “นายทักษิณ” เพียงแต่ไม่ใช่ “นางสาวยิ่งลักษณ์”
ตรงกันข้าม ปลายหอกกำลังระดมพุ่งเข้าใส่พรรคอนาคตใหม่ ผ่าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผ่าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล
อาจเป็นเพราะปฏิกิริยาและความไม่พอใจต่อการทำงานเลือกตั้งของกกต. ที่ปรากฏอย่างคึกคัก กว้างขวางดำเนินไปอย่างขยายวง
มิได้เป็นเรื่องของ “คนหน้าเดิม” อย่างที่มีการอ้างอิง
ตรงกันข้าม เป็นปฏิกิริยาที่อาจเริ่มขึ้นในส่วนกลางอย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
แต่ก็เริ่มขยายไปยังเชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี หาดใหญ่
ยิ่งกว่านั้น ยังมิได้จำกัดเพียงมหาวิทยาลัยเก่าแก่ดั้งเดิม ตรงกันข้าม เริ่มลามเข้าไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏ รวมถึงสถาบันเทคโนโลยีอันหลากหลาย
ปะทุอารมณ์จากบรรดาลุงๆ ป้าๆ ในห้วงแห่งการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งจึงยิ่งตื่นตระหนกอย่างกว้างขวางใหญ่โต
สัมผัสได้จาก “สาร” จากทำเนียบรัฐบาล
สัมผัสได้จากแถลงยาวเหยียด เกรี้ยวกราดจากทหารใหญ่ แม้มิได้ระบุว่าเป้าหมายเป็นใครหากแต่สารที่ต้องการสื่อ
1 เป็นนิสิต นักศึกษา 1 เป็นครูบาอาจารย์
แล้วในที่สุดก็ปรากฏรูปธรรมเป้าหมายเรียกอันส่งตรงไปยัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อันส่งตรงไปยัง นายปิยบุตร แสงกนกกุล
เป็นที่รู้กันว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการพรรค ทั้ง 2 เป็นคีย์แมนของพรรคอนาคตใหม่
หรือเพราะว่าปรากฏการณ์ 6.3 ล้านคะแนนเสียง
หรือเพราะว่าพรรคอนาคตใหม่สร้างปรากฏการณ์ ได้รับเลือกมาเป็นอันดับ 3 เหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา
ในที่สุด พรรคอนาคตใหม่ก็กลายเป็นตำบลกระสุนตก