อายุรัฐบาล
ทำนายทาย“ล่วงหน้า”
ตั้งแต่ไม่มีครม.
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
อายุรัฐบาล – ทั้งๆ ที่ยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งครม. ทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรีและครม.ยัง ไม่ได้ถวายสัตย์ ปฏิญาณ
แต่ก็เริ่มมีการพูดถึงแนวโน้มการปรับครม.
ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีอุปมาฉันใดอุปไมยฉันนั้นของพัฒนาการแห่งรัฐบาล “เรือแป๊ะ” ไปยังรัฐบาล “เรือเหล็ก” พร้อมกับคำเตือนอันคมคาย
จากโคลงโลกนิติที่ว่า “สนิมเกิดแต่เนื้อ ในตน”
ไม่ว่าสมุฏฐานแห่งการเกิดสนิมภายในรัฐบาล “เรือเหล็ก” ไม่ว่าสมุฏฐานอันเป็นสาเหตุของการปรับครม. ล้วนมาจากเหุตเดียวกัน นั่นคือ พรรคพลังประชารัฐ
ความจริง ข้อคาดทำนายในเรื่องอายุของรัฐบาลนั้นมีมาอย่างต่อเนื่องนับแต่ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ปรากฏออกมาแล้ว
ต้นตอมาจากจำนวน 116 ของพรรคพลังประชารัฐ
แม้จะได้อภินิหารจากการคิดสูตรคำนวณบัญชีรายชื่อทำให้สถาปนา 11 ส.ส. จาก 11 พรรคการเมืองขนาดเล็ก ผนวกเข้ากับ 250 ส.ว.
ส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ตัดสินใจ
แต่จำนวน 251 ส.ส. ที่ขานชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นร่อแร่ ปริ่มน้ำเป็นอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับจำนวนทั้งหมด 500
แม้จะมีคนมองโลกในแง่ดีบางคนมองว่าด้วยกลไกหลายอย่างที่ตระเตรียมผ่านรัฐธรรมนูญอาจทำให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ยั้งยืนยง
ถึงจะเป๋อย่างไรก็สามารถหวนกลับมาได้
แต่ก็มีหัวหน้าพรรคที่ตบเท้าเข้าร่วมรัฐบาลเคยคาดหมายเอาไว้ล่วงหน้าว่าไม่น่าจะเกินสิ้นปี 2562 โดยเฉพาะเมื่อผ่านเข้าร่างพ.ร.บ. งบประมาณประจำปีก็ต้องเหนื่อย
ยิ่งเมื่อเกิดกรณี “สารนายกรัฐมนตรี” ยิ่งน่าใจหาย
แม้จะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แสดงการยอมรับ แต่ก็ดำเนินไปในแบบ “กลืนเลือด”
ข่าวที่ว่าจะมีการปรับครม. ในอีก 3 เดือนข้างหน้าลอยออกมาจากภายในพรรคพลังประชารัฐก็เสมอเป็นเพียงคำปลอบใจบรรดาคนอกหักทั้งหลาย
อาจทำให้ “สงบ” ลงไปในห้วงเวลาหนึ่ง
แต่ความไม่พอใจที่รุนแรงถึงขั้นพยายามจะขับไล่เลขาธิการพรรคย่อมมิใช่การเมืองในแบบล้อกันเล่นอย่างแน่นอน
นี่คือสภาพที่แม้จะเป็น “เรือเหล็ก” ก็ไม่แน่ว่าจะราบรื่น