สุรินทร์ เร่าร้อน ลักษณะ กลอนพาไป หรือ หลักการ
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
สุรินทร์ เร่าร้อน – กรณี 3 ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตกอยู่ในวงโอบอันคึกคัก เร่าร้อนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะที่จังหวัดสุรินทร์กำลังทวีความแหลมคมมากยิ่งขึ้น
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อาจเห็นว่าเป็น “กลอนพาไป”
เป็นกลอนพาไปกระทั่งกลายเป็นเรื่องการขอ เงินงบประมาณ เป็นกลอนพาไปกระทั่งกลายเป็นความเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับการยื่นญัตติขอเปิด อภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ
เรื่องนี้ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร มีความเห็นต่าง
เพราะว่าการออกปากขอเงินเท่ากับเป็นการเลียท็อปบู๊ต เพราะว่าการแย้งกับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เท่ากับสวนกับมติของพรรคเพื่อไทยและ 7 พรรคร่วมรัฐบาล
หากมองจากมุมของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นี่ย่อมมิได้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเมื่อเห็นว่าเป็น “กลอนพาไป” เสียแล้วอะไรก็ย่อมเป็นไปได้
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค
ทั้งยังเป็นหัวหน้าพรรคที่ผ่านพรรคการเมืองมาแล้วหลายพรรคกว่าจะมาถึงพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย
ย่อมจะโอนอ่อนผ่อนตามในแบบ “กลอนพาไป”
กระนั้น ก็อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ดำรงอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบงานการเมืองภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย
ความเป็นจริงอย่างมีนัยสำคัญที่จำเป็นต้อง ยอมรับก็คือ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เพิ่งอภิปรายโจมตีนักการเมืองที่ได้ดิบได้ดีเพราะ “เลียท็อปบู๊ตทหาร”
แม้เป้าจะอยู่ที่ ส.ว. แต่ก็ครอบคลุมถึง ส.ส.
ยิ่งกว่านั้น นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ยังเป็น 1 ใน 100 กว่าคนที่ร่วมลงชื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในประเด็นอันเกี่ยวกับการถวายสัตย์ปฏิญาณตน
นี่เป็นเรื่องที่ประธานวิปฝ่ายค้านแบกรับโดยตรง
การแบกรับในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านจึงมิได้ เป็นทิศทางและแนวทางของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากแต่ยังเป็นทิศทางและแนวทางของ 7 พรรคร่วมรัฐบาล
ท่าทีเอาจริงเอาจังของ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อาจแตกต่างไปจากท่าทีผ่อนปรนของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แต่ก็มีความสำคัญในทางการเมือง
สำคัญในการกำหนด “บรรทัดฐาน”
หากเป็นเรื่อง “กลอนพาไป” เสร็จแล้วก็เสร็จเลย ลืมๆ กันไปไม่ต้องถือเป็นสาระ แต่หากเป็นทิศทาง เป็นแนวทางก็จำเป็นต้องจริงจัง มั่นคงในหลักการ
หากละทิ้ง “หลักการ” เสียแล้วก็ย่อมเป๋ไปเป๋มา