หลายคนอาจคิดว่า ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ต่อ คสช.และต่อรัฐบาลมีความเข้มมากยิ่งขึ้นเนื่องจากกรณีอันเกี่ยวกับวิกฤตราคายางพาราเสื่อมทรุดและตกต่ำ

อาจใช่

เพราะว่ายางพาราเป็นพืชทางการเกษตรที่สัมพันธ์กับฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์อย่างแนบแน่นและยาวนาน

แต่ที่ไม่ควรมองข้าม คือ มาตรการของ คสช.และรัฐบาล

การที่ คสช.และรัฐบาลงัดเอาคำสั่งหัวหน้า คสช.มานำเอาตัวเกษตรกรชาวสวนยางไม่ว่าที่ตรัง ไม่ว่าที่พัทลุง และล่าสุด คือที่ชุมพร คือสิ่งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์หงุดหงิดมากกว่า

และทำท่าว่าความหงุดหงิดนี้จะดำรงอยู่ยาว

แท้จริงแล้ว เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสนใจและมีลักษณะชี้ขาดมากยิ่งกว่าเรื่องยางพาราน่าจะมาจาก 6 คำถามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

6 คำถามได้แสดงความต้องการอย่างเด่นชัด

ความเด่นชัดที่จะสืบทอดอำนาจและอยู่ในอำนาจต่อไปเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่ไม่นึกว่า คสช.จะมั่นใจในพลานุภาพของตนเองกระทั่งปฏิเสธพรรคการเมืองเก่าอย่างสิ้นเชิง

อย่าว่าแต่พรรคประชาธิปัตย์เลยที่หงุดหงิด แม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยก็หงุดหงิด

พลันที่มีปัญหาอันเนื่องแต่วิกฤตราคายางพาราเข้ามาพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องเข้มอย่างเป็นพิเศษเพื่อเตือนให้ คสช.ได้รับรู้สภาพความเป็นจริง

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ความเข้มก็จะยิ่งเพิ่มทวี

หากพรรคประชาธิปัตย์ยังเล่นบทหยวนให้กับ คสช.อย่างที่ กปปส.ต้องการคะแนนและความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์จะยิ่งหดแคบ เหลือน้อย

การแพ้ต่อพรรคเพื่อไทยนั่นเป็นสิ่งที่คาดอยู่แล้ว

แต่หากพรรคประชาธิปัตย์จัดระยะและความสัมพันธ์กับ คสช.ไม่ดี นั่นหมายถึงโอกาสที่จะถูกกวาดไปรวมเป็นพวกเดียวกับ คสช.

แล้วความพ่ายแพ้จะยิ่งใหญ่หลวง มหาศาล

พรรคประชาธิปัตย์สะสมความจัดเจนนี้มาตั้งแต่ยุค จอมพล ป.พิบูลสงคราม ยุค จอมพลถนอม กิตติขจร ยุค พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ มาแล้ว

เพราะว่า “รัฐประหาร” นั่นแหละจะเป็นตัวฉุดคะแนน

สนามเลือกตั้งครั้งหน้า โอกาสที่ คสช.จะตกเป็น “เป้า” ของทุกพรรคการเมืองมีความเป็นไปได้สูงอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะแต่เพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

ยิ่งวิพากษ์ คสช.ยิ่งสร้างคะแนนนิยม

ความเป็นจริงนี้เห็นได้ตั้งแต่ยุคพรรคเสรีมนังคศิลา ยุคพรรคสหประชาไทย และยุคหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มาแล้ว

โอกาสที่ คสช.จะเป็น “ตำบลกระสุนตก” มีสูงอย่างยิ่ง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน