ระวังโครงการบ้านล้านหลัง

เรียน บ.ก.ข่าวสด ที่นับถือ

บก.ตอบจดหมาย : โครงการรถยนต์คันแรกสร้างปัญหาใหญ่ให้กับ ระบบ เพราะคนที่เข้าร่วมโครงการนั้นมิได้มีความพร้อมที่จะซื้อรถยนต์ แต่เป็นเพราะนโยบายแจกแหลก ลดภาษี ส่วนตัวผมซื้ออีโค้คาร์ราคา 5 แสน ยังได้ลด 7 หมื่นบาท ในขณะที่คนที่ซื้อรถราคา 8 แสนได้ลดถึงแสนบาท ทำให้คนที่ไม่เคยมีรถยนต์แย่งกันซื้อ เพราะคิดว่าได้กำไร แต่เมื่อต้องผ่อนส่งทำให้เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ ดังนั้นจึงมีการทิ้งใบจองและถูกยึดมากมาย ทั้งนี้เพราะคนที่ไม่เคยมีรถยนต์และไม่มีความจำเป็นต่างก็พากันคว้าโอกาส เพราะได้ลดภาษี โครงการบ้านล้านหลังที่ผุดขึ้นก่อนเลือกตั้ง อาจจะซ้ำรอยโครงการรถยนต์คันแรก เพราะเมื่อมีโอกาสก็ต้องรีบคว้าไว้ก่อนตามสุภาษิต “คนฉลาดย่อมไม่ละโอกาส” แต่โอกาสนั้นก็เปรียบเสมือน “เหยื่อล่อปลา” โดยเฉพาะเมื่อต้องกู้เงินมาซื้อบ้าน โครงการนี้กำหนดให้ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี แต่หลังจากนั้นก็ลอยตัว ใครที่เคยกู้เงินธนาคารซื้อบ้านสมัยก่อนต้มยำกุ้งก็จะทราบว่า MLR ก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งนั้นประมาณ 7% แต่หลังจากเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งปรากฏว่า MLR ขึ้นไปถึง 17 % ทำให้เกิดภาวะ NPL ทั้งแผ่นดิน ดังนั้นถ้าประวัติศาสตร์ซ้ำรอยคนที่กู้เงินซื้อบ้านล้านหลัง ตอนนี้ก็จะต้องตกอยู่ในสภาวะไม่สามารถชำระหนี้ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่ออาชีพไร้ความมั่นคง อาจจะถูกซองขาวได้ถ้าสภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด

ผมมิได้มองโลกในแง่ร้าย แต่ประเมินจากสภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศไทย สมัยก่อน ฟองสบู่แตกผมก็เป็นคนหนึ่งที่กู้เงินเพื่อซื้อบ้าน ซึ่งถ้าไม่มีอาชีพที่มั่นคงแล้วก็คงไม่สามารถผ่อนส่งได้อย่างแน่นอน แต่ก็ต้องรัดเข็มขัดจนถึงรูสุดท้าย ต้องคดข้าวใส่ปิ่นโต ขี่มอเตอร์ไซค์ฮ่างไปทำงานนับสิบปีจึงเป็นไท จึงอยากจะนำประสบการณ์ส่วนตัวมาเตือนคนที่คิดจะซื้อบ้านด้วยว่า ต้องมีความอดทนและอดออมอย่างยิ่ง เริ่มรัดเข็มขัดตั้งแต่เซ็นสัญญา โดยจะต้องใช้ระบบ “เศรษฐกิจซูเปอร์พอเพียง” พ่อบ้านต้องอดเหล้า ลูกบ้านต้องอดน้ำอัดลม หยอดเงินใส่ “หมูออมสิน” และต้องตรวจสอบสลิปทุกเดือน

นายต้มยำ วิญญาณกุ้ง

ตอบ นายต้มยำ วิญญาณกุ้ง

ขอบคุณที่ให้ข้อแนะนำกับคนอื่นๆ แนวคิดเรื่องการใช้จ่ายเงินอย่างพอตัว ใช้ตามจำนวนที่มีจริงอยู่ในกระเป๋านั้น ถือว่าถูกต้องที่สุด บทเรียนของคุณจากโครงการรถยนต์คันแรกนั้น ในมุมมองของคุณน่าสนใจ แต่อันที่จริงหลายโครงการของรัฐบาลมีเหตุผลจำเป็นด้านอื่นๆมาประกอบด้วย อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจของประชาชนใน ยุคนั้น กับในยุคนี้ต่างกันมาก 4 ปีมานี้ทุกคนมีปัญหาหมด เงินทองหดหาย ยิ่งต้องระมัดระวังมากกว่าสมัยโน้น

วันเลือกตั้งอย่ากระทบเด็ก

เรียน บ.ก.

ขอแนะนำ เรื่องวันเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องให้ตรงกับวันอาทิตย์ เป็นวันธรรมดาก็ได้ แล้วให้วันนั้นเป็นวันหยุดพิเศษไป เพื่อที่จะไม่ต้องไปกระทบกับ วันสอบ GAT/PAT ของนักเรียน และไม่ควรจะเลื่อนวันสอบของนักเรียน อย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องกับเด็ก ยิ่งระบบการเรียนการสอนบ้านเราไม่เหมือนเพื่อนอยู่ ให้เด็กรู้วันเวลาสอบที่แน่นอนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม

นับถือ

เคยเป็นเด็ก

ตอบ เคยเป็นเด็ก

คือถ้ากำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจนแต่เนิ่นๆ ไม่เลื่อนไปเลื่อนมา ก็คงไม่มีปัญหาเช่นนี้หรอก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน