ทะลุคนทะลวงข่าว

ยืดเยื้อมานานกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง หลายพันนาย เข้าตรวจค้นและปิดล้อมวัดพระธรรมกาย

ภายใต้อำนาจมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 5/2560 เรื่องมาตรการการใช้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุม

ให้วัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบ เป็นเขตควบคุมพิเศษ เพื่อตรวจค้นและควบคุมตัว พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด

นำมาซึ่งเหตุกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่กับพระสงฆ์และศิษย์วัดพระธรรมกายหลายครั้ง

มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นการปิดล้อมวัดครั้งนี้

นอกจากนี้ ยังนำมาซึ่งการดำเนินคดีผู้สนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมวัดพระธรรมกาย รวมถึง พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษก ดีเอสไออ้างว่า

พระสนิทวงศ์มีพฤติกรรมที่แถลงข่าวและมีการใช้โซเชี่ยลมีเดียในการบิดเบือนข่าวสาร มีความผิดฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116

อีกทั้ง พระสนิทวงศ์ ถูกออกหมายเรียกแล้ว 2 ครั้ง ฐานฝ่าฝืนคำสั่งคสช.

เช่นเดียวกับกรณีของ องอาจ ธรรม นิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย กับพวก ซึ่งถูกดำเนินคดีก่อนหน้านี้

ในข้อหาผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต โดยยุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ตามมาตรา 116

ก่อนเข้ามอบตัวเงียบๆ

ขณะที่ พระนพดล สิริวํโส หัวหน้ากองปฏิบัติธรรม ผู้ช่วยผอ.สำนักเผยแผ่วัดพระธรรมกาย ก็ถูกสำนักเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขู่ดำเนินคดี

ฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จกล่าวหาสมาชิกสนช.ทำลายพระพุทธศาสนาให้สูญสิ้นไปจากแผ่นดินไทย โดยการแก้ไขพระราชบัญญัติสงฆ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560 และอ้างรายชื่อสมาชิกสนช.จำนวน 63 คน

ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

องอาจ ธรรมนิทา หรือ อาร์ท วัย 36 ปี พื้นเพเป็นชาวคลองหลวง ปทุมธานี

ปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะนิเทศศาสตร์ (วิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

เป็นนักกิจกรรมเคลื่อนไหวกิจกรรมทางสังคมตั้งแต่เป็นเยาวชน เคยเป็น แกนนำนักศึกษายื่นคัดค้านนำธุรกิจ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์

มีดีกรีเป็นเยาวชนดีเด่น ได้รับการชักชวนจากวัดพระธรรมกาย ทำหน้าที่เป็นพิธีกรและผู้ประกาศธรรม ประจำช่อง DMC TV

เป็นนักพูดที่วัดพระธรรมกายไว้วางใจ

ออกมาแถลงปกป้องพระธัมมชโย พร้อมแสดงจุดยืนของคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ทั้งหมด 9 ข้อ

ก่อนถูกดีเอสไอเข้าแจ้งความกองปราบฯ ฐานยุยงปลุกปั่น เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2)

พระสนิทวงศ์ หรือ สนิทวงศ์ เจริญรัตตะวงศ์ เกิดเมื่อ 12 ส.ค.2514 เป็นชาวยะลา

เคยศึกษาที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เข้าสู่ร่มเงาของวัดพระธรรมกายจากการเข้าอบรม “ธรรมทายาท” ตั้งใจจะจับผิดวัด แต่เมื่อพบกับพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส ได้สอนให้จับถูกผู้อื่น จับผิดตัวเอง จึงเลื่อมใสและมาบวชช่วยงานวัด

มีบทบาทช่วยเหลือวัดและพระสงฆ์ทางภาคใต้ รวมถึงในโรงเรียนอนุบาล “ฝันในฝันวิทยา” วัดพระธรรมกาย

ใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เผยแพร่ข้อมูลต่างๆ

ฮือฮาเมื่อมีการเผยแพร่ข้อความที่ถูกมองว่า “ตบะแตก” หลังถูกดีเอสไอตัดสัญญาณโทรศัพท์ โดยใช้ประโยคว่า “ฝากบอกไปยังควายสมชื่อด้วยว่า ในพื้นที่มีเรือนพยาบาลอยู่ในวัด และเรือนพยาบาลมีพระป่วยพักรักษาตัวอยู่ หากจะทำอะไรต่อไป ก็อย่าให้มันอำมหิตเกินที่มนุษย์เขากระทำ”

ออกมาแถลงเรียกร้องให้ยุติการใช้มาตรา 44

กระทั่งถูกอธิบดีดีเอสไอลงนามคำสั่งให้กองกฎหมาย ไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า

ข้อหาขัดคำสั่ง คสช.ไม่มารายงานตัวตามหมายเรียกมาพบที่ บก.ตชด.ภ.1

ก่อนเก็บตัวเงียบ ให้พระรูปอื่นแถลงข่าวแทน


พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ วัย 47 ปี

ปริญญาตรีรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 2536 ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เริ่มรับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เคยเป็นพนักงานสอบสวน แผนก 5 กองกำกับการ 5 กองปราบปราม

ย้ายมาอยู่ดีเอสไอในปี 2547 อยู่สำนักคดีอาญาพิเศษ และสำนักกิจการต่างประเทศและอาชญากรรมระหว่างประเทศ

2552 เป็นผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ

รับผิดชอบชี้แจงการปิดล้อม ตรวจค้นและดำเนินคดีกับผู้ที่มีพฤติกรรมขัดขวางและปลุกระดมในพื้นที่ประกาศมาตรา 44

ส่วนกรณีพระสนิทวงศ์ เจ้าหน้าที่จะไม่ออกคำสั่งเรียกอีก ถ้าพบเจอที่ไหนสามารถเข้าจับกุมได้เลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน