ผบ.มะกันโล่ง ไร้เชื้อ‘โควิด’

ศบค.ห่วงพบอื้อ
คนกรุงการ์ดตก

ผบ.ทบ.มะกันโชว์ตรวจโควิดหลังบินมาถึงเมืองไทย ผลไม่พบเชื้อ ขณะที่ไทยมีมาตรการคุมเข้ม จนท. ประกบติดตลอดเวลา เผยเข้าพบหารือ‘บิ๊กตู่-บิ๊กแดง’ช่วงเช้าวันศุกร์นี้ ศบค.พบติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย กลับจากยูเออี 4 ราย และอียิปต์ 1 ราย รวมป่วยสะสม 3,202 คน ส่วนในประเทศปลอดเชื้อนาน 45 วันติดต่อกัน ระบุช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา คนไทยกลับจากต่างประเทศป่วยแต่ไม่แสดงอาการ 1 ใน 3

พร้อมเปิดผลสำรวจพบการ์ดตกอื้อ โดยเฉพาะคนกรุงมีมากกว่าคนตจว. ส่วนตลาดสดไม่มีลงทะเบียนไทยชนะถึง 47% ขณะที่ 45% ไม่เห็นด้วยกับทราเวล บับเบิล และกว่า 69% ค้านเปิดท่องเที่ยวระหว่างประเทศ

ไร้โควิด – พล.อ.เจมส์ แมคคอนวิลล์ ผบ.ทบ.สหรัฐ เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 กทม. ผลตรวจเป็นลบ ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.

ติดเชื้อเพิ่ม 5-กลับจากตปท.

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รักษาหายเพิ่ม 11

ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้ป่วยสะสมรวม 3,202 ราย มาจากสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 265 ราย หายป่วยรวม 3,085 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ยังรักษาตัวในร.พ. 59 ราย ไม่มีผู้ป่วยรายงานติดเชื้อในประเทศต่อเนื่อง 45 วัน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 5 รายมาจาก 1.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี 4 ราย ได้แก่

เพศชาย อายุ 38 ปี 40 ปี และ 54 ปี และเพศหญิง อายุ 42 ปี ทั้งหมดมีอาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทยวันที่ 2 ก.ค. เข้าพักสถานกักกันที่กทม. และ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 7 ก.ค. ตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ และ 2.อียิปต์ 1 ราย เป็นนักศึกษาชาย อายุ 22 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 8 ก.ค. ผ่านด่านคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค พบว่ามีอาการได้กลิ่นและการรับรู้รสลดลง ส่งตรวจหาเชื้อวันที่ 8

ก.ค. พบว่าติดเชื้อ สังเกตว่าหลังๆ อาการน้อยมาก แทบไม่มีอาการ อาจจะมีเรื่องของการรับกลิ่น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวัยแรงงาน

“คนไทยกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว 1,223 คน ยืนยันติดเชื้อ 21 คน ส่วนอียิปต์กลับมาแล้ว 800 คน เจอติดเชื้อ 7 คน ส่วนภาพรวมคนที่กลับมาจากต่างประเทศพบว่า มีอาการ 51.2% มากกว่า

ไม่มีอาการเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากช่วงแรกๆ ส่วนใหญ่กลับมามักมีอาการ แต่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. หรือประมาณ 2 เดือน พบว่าเกือบ 60% ไม่มีอาการ เป็นภาพการเปลี่ยนแปลงของโรคนี้ โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาพบว่า 33% หรือ 1 ใน 3 ไม่มีอาการ และ 36.67% มีอาการก่อนเดินทาง 25% มีอาการวันเดินทาง และ 5% ไม่ระบุวันที่ป่วย”

นพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก ป่วยสะสม 12.1 ล้านคน ป่วยเพิ่มวันเดียว 2.14 แสนคน เสียชีวิต 5,428 รายในวันเดียว เสียชีวิตรวม 5.52 แสนราย โดยสหรัฐอเมริกาป่วยสะสม 3.15 ล้านราย ป่วยเพิ่มวันเดียว 6.1 หมื่นราย ขณะที่บราซิลป่วยสะสม 1.7 ล้านราย ป่วยเพิ่มวันเดียว 4.1 หมื่นราย ส่วนประเทศไทยยังคงอยู่อันดับ 99 ของโลก

ศบค.เผยคนไทย‘การ์ดตก’

โฆษก ศบค.กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) สำนักงานภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ ร.พ.รามาธิบดี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระหว่างมาตรการผ่อนปรน โดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 77 จังหวัด ใช้แบบสอบถามไปสอบถามประชาชนใช้เวลา 7 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15

พ.ค.-2 ก.ค. 63 เพื่อดูพฤติกรรมคนไทย โดยมีผู้ตอบแบบสอบถาม 407,008 ราย ผลสำรวจพบว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศพฤติกรรมป้องกันตนเองอยู่ที่ 0.84 จากคะแนนเต็ม คือ 1 แต่หากแยกเฉพาะเรื่อง โดยเรื่องหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย อยู่ที่ 0.92 กินร้อนช้อนกลางตัวเอง 0.90 ล้างมือ 0.88 ไม่อยู่ใกล้คนอื่นน้อยกว่า 2 เมตร 0.79 และระวังไม่เอามือไปจับหน้า จมูก อยู่ที่ 0.73

เมื่อดูตามช่วงเวลา ตั้งแต่ 17 พ.ค. ที่ผ่อนคลายระยะที่ 2 ถึงวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่อนคลายระยะที่ 5 แต่ละพฤติกรรมความร่วมมือแต่ละด้านถือว่าลดลงทุกพฤติกรรม ทั้งใส่หน้ากาก ล้างมือ กินร้อนช้อนกลาง อย่างภาพรวมวันที่ 17 พ.ค. อยู่ที่ 85.3% เมื่อถึง 1 ก.ค. เหลือ 80.7% หากถามว่าการ์ดตกหรือไม่ เห็นภาพชัดว่าการ์ดตกแน่นอน ซึ่งมาตรการระยะหลังมีความเสี่ยงสูง ต้องพึงระวัง

หนุนกักตัวทุกคน 14 วัน

“ส่วนการใช้ ‘ไทยชนะ’ พบว่าสถานที่ใดที่ไม่มีไทยชนะหรือไม่มีสมุดลงชื่อ อันดับ 1 คือตลาดสดและร้านค้าในตลาด 46.9% ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต 17.1% ร้านขายของนอกห้าง 15.4% ร้านอาหารที่อยู่นอกห้าง 12% ร้านตัดผมนอกห้าง 9.2% ศาสนสถาน 8.5% ร้าน/สถานบริการในห้าง

7.2% แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ 5% ร้านนวดแผนไทยและสปาที่อยู่นอกห้าง 2.1% และโรงยิมในร่ม ฟิตเนส ที่อยู่นอกห้าง 1.6% ส่วนคนที่ไปแต่ไม่เช็กอินพบ 18% เหตุลที่ไม่เช็กอิน คือลืม 22.3% ไม่มั่นใจความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว 21.5% และร้านค้าไม่มีคิวอาร์โค้ด 21.1%”

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ส่วนการรับคนไทยกลับจากต่างประเทศ โดยมีมาตรการกักตัว 14 วันทุกคน สนับสนุนอย่างยิ่ง 44.5% สนับสนุน 44.1% ไม่สนับสนุน 5.9% ไม่แสดงความคิดเห็น 5.1% เรียกว่าส่วนใหญ่สนับสนุน แต่ถ้านำนักท่องเที่ยวมาจากต่างประเทศ หรือทราเวล บับเบิลเข้ามา พบว่าไม่สนับสนุน 45.2% สนับสนุน 37.9% สนับสนุนอย่างยิ่ง 13.7%

ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับประเทศอื่นๆ ที่ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อ พบว่า 69.2% ไม่สนับสนุน สนับสนุน 19.1% สนับสนุนอย่างยิ่ง 9% ฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ให้ข้อมูลมาเราจะเอามาวางแผนการทำงานต่อ

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ถามว่ามั่นใจรัฐบาลจะควบคุมการแพร่ระบาดระลอก 2 ได้หรือไม่ พบว่ามั่นใจ

40.5% มั่นใจมาก 14.8% ไม่มั่นใจนัก 28.6% ไม่มั่นใจเลย 10.2% ถ้ามั่นใจก็ต้องมั่นใจตัวเองในการช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการชุดพฤติกรรมส่วนตัว เราสำเร็จได้ไม่ใช่เพราะรัฐบาลอย่างเดียว แต่เกิดจากความร่วมมือของประชาชน ส่วนการสำรวจผ่านทางออนไลน์และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ พบว่าการสำรวจโดย อสม.ซึ่งถือเป็นการสำรวจในคนต่างจังหวัด พบว่าคะแนนสูงกว่าใน กทม.หรือใน

เมืองทั้งหมด อย่างภาพรวมสำรวจโดย อสม.อยู่ที่ 80.7% แต่สำรวจออนไลน์ภาพรวมอยู่ที่ 72.7%

ศบค.แจงแขกรัฐบาลไม่ต้องกักตัว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีแขกพิเศษและกลุ่มคนที่เดินทางด้วยข้อตกลงพิเศษจากต่างประเทศเข้ามาประเทศไทย ว่า มาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 เราผ่อนปรน 2 กลุ่มที่จะเข้ามาได้ คือแขกของรัฐบาล

และกลุ่มที่เป็นข้อตกลงพิเศษ นักธุรกิจที่เข้ามาระยะสั้น ถือเป็นความแตกต่างระหว่างระยะที่ 4 และระยะที่ 5 ซึ่งเดิมทุกคนเข้ามาต้องเข้าสถานเฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ 14 วัน แต่ครั้งนี้เราผ่อนคลายขึ้นมา เพราะมั่นใจว่าเราควบคุมกิจการกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ได้ โดยคณะของผบ.ทบ.สหรัฐอเมริกาที่เดินทางเข้ามา เรียกว่าเป็นกิจกรรมที่ทำอันแรกก็ได้

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยต่างชาติลงทะเบียน 1,385 ราย ผู้ติดตามอีกพันกว่าคน รวมๆ แล้วประมาณ 2 พันกว่าคนที่จะเข้ามาในก.ค.-ก.ย.นี้ ซึ่งญาติก็จะนอนในร.พ.ด้วย 14 วัน ส่วนการอยู่รอเพื่อฟอลโลว์อัพอีกครั้งหนึ่ง ตรงนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอาจเข้ามาเชื่อมกับกระทรวงสาธารณสุขว่า ถ้าอยู่ต่อหลัง ครบ 14 วันไปเที่ยวต่อหรือไม่ อาจมีการจัดแพ็กเกจทัวร์ เพราะเขาอยู่

กักตัวครบ 14 วันแล้ว ไม่มีเชื้อแน่ๆ ก็เหมือนให้คนไทยไปเที่ยวกันเองกลุ่มคนกลุ่มนี้ก็จะมีความมั่นใจมาจับจ่ายใช้สอย ก็จะกระจายรายได้ไปพื้นที่อื่นๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต

ผบ.มะกันโชว์ตรวจเข้มโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.15 น. พล.อ.เจมส์ ซี. แมคคอนวิลล์ ผบ.ทบ.สหรัฐ และคณะรวม 10 คน

เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค. โดยเป็นแขกต่างประเทศคณะแรก ภายหลังศบค.ประกาศมาตรการเฉพาะสำหรับแขกต่างประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย
โดยคณะของผบ.ทบ.สหรัฐเดินทางด้วยอากาศยานของสหรัฐมาลงที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง

จากนั้นเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยการเก็บเชื้อจากโพรงจมูก ผลการตรวจปรากฏว่าเป็นลบ ไม่มีเชื้อ

ด้านเพจ SMARTsoldiersstrongARMY เผยแพร่ภาพการเดินทางของผบ.ทบ.สหรัฐ ระบุว่า ความคืบหน้าการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของผบ.ทบ.สหรัฐ และคณะ ก่อนมาถึงประเทศไทย

คณะได้เดินทางเยือนสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. โดยพบปะกับผบ.ทบ.สิงคโปร์ เพื่อหารือข้อราชการ โดยที่ประเทศสิงคโปร์มีการตรวจเชื้อโควิด-19 ของคณะทั้งหมดแล้ว ผลเป็นลบ และมีมาตรการที่เข้มงวดระหว่างอยู่ในสิงคโปร์

สำหรับมาตรการแนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานของศบค.ที่กำหนดไว้นั้น คณะผบ.ทบ.สหรัฐและกองทัพบก ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพผู้รับผิดชอบได้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ได้เพิ่มเติมการปฏิบัติเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการป้องกันโควิด-19 อีกหลายประการ อาทิ การจัดรถตู้ที่มีฉากกั้น การทำความสะอาดฆ่าเชื้อในทุกจุดตามแผน

กำหนดการ

สำหรับอุปกรณ์ประจำรถประกอบด้วย 1.เจล แอลกอฮอล์ 2.แอลกอฮอล์ แพด 3.ถังขยะสำหรับทิ้งแอลกอฮอล์ แพดที่ใช้แล้ว 4.วิทยุสำหรับคุยกันระหว่างผู้โดยสาร และ พลขับ โดยไม่ต้องลดหน้ากากป้องกัน และ 5.สเปรย์ฆ่าเชื้อ พร้อมผ้าเช็ดรถ ไว้กับพลขับ

นอกจากนี้ยังจัดเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ติดตามคณะผบ.ทบ.สหรัฐตลอดการเยือนไทยด้วย โดยกำหนดการมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการนั้นได้รับการพิจารณาจากทาง ศบค.แล้ว ยืนยันว่าไม่มีการเดินทางส่วนตัวนอกแผนอย่างแน่นอน

จากนั้นยังโพสต์ภาพผบ.ทบ.สหรัฐเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6

ดอนเมือง โดยพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.เดินทางไปต้อนรับด้วยตนเอง พร้อมทั้งให้ข้อมูลถึงมาตรการของไทยเกี่ยวกับการต้อนรับแขกต่างประเทศที่มาเยือนไทย โดยคณะผบ.ทบ.สหรัฐถือเป็นแขกต่างประเทศคณะแรกที่มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะถือเป็นมาตรฐานและแนวทางการต้อนรับคณะแขกต่างประเทศในโอกาสต่อๆ ไปด้วย

ทั้งนี้ พล.อ.เจมส์ ซี. แมคคอนวิลล์ ผบ.ทบ.สหรัฐชื่นชมมาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาลไทย

เข้าเยี่ยม‘บิ๊กตู่-บิ๊กแดง’

ด้านกองประชาสัมพันธ์ กองทัพบกเผยแพร่การเดินทางของผบ.ทบ.สหรัฐและคณะ ในฐานะแขกของทบ.ว่าจะเข้าเยี่ยมคำนับ นายกฯ และผบ.ทบ. ในวันที่ 10 ก.ค. และชี้แจงกรณีผบ.ทบ.สหรัฐและคณะ

ที่ไม่ต้องกักตัว 14 วันว่า เป็นไปตามข้อกำหนด ฉบับที่ 12 ที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และตามคำสั่ง ศบค. ที่ 7/2563 ได้แก่ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่ นายกฯ หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอนุญาตให้เข้ามาในราช

อาณาจักรได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนดเงื่อนไข และเงื่อนเวลาก็ได้ ซึ่งคณะของผบ.ทบ.สหรัฐอยู่ภายใต้ข้อพิจารณาดังกล่าว โดยคณะของผบ.ทบ.สหรัฐยืนยันปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขของไทย และมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัดทุกประการ

การเดินทางเยือนไทยของผบ.ทบ.สหรัฐและคณะครั้งนี้ ทบ.ตระหนักและให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขของไทย และข้อกำหนดของศบค.อย่างเคร่งครัดทุกประการตั้งแต่ก่อนที่คณะ เดินทางถึงไทย จนถึงคณะเดินทางออกจากประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน