นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงโรคมะเร็งไทรอยด์ว่า จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย เราพบผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์รายใหม่ประมาณ 2,800 รายโดยส่วนใหญ่จะพบใน เพศหญิงมากกว่าเพศชาย จัดอยู่ในอันดับ 7 ของมะเร็งทั้งหมดที่พบในเพศหญิง ส่วนเพศชายแม้จะพบน้อยกว่าแต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ทั้งนี้ มะเร็งไทรอยด์เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ และพัฒนาเป็นก้อนมะเร็งขึ้น และอาจจะขยายโตขึ้นเรื่อยๆ สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้

“ปัจจุบันยังไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่ามะเร็งไทรอยด์เกิดจากสาเหตุใด แต่มีหลายปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยง เช่น การได้รับรังสีบริเวณลำคอหรือบริเวณต่อมไทรอยด์เคยเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ขาดธาตุอาหารไอโอดีน หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ เป็นต้น” นพ.สมศักดิ์กล่าว

นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า มะเร็งไทรอยด์ในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อเซลล์มะเร็งเจริญเติบโตขึ้น ผู้ป่วยอาจคลำพบก้อนนูนใต้ผิวหนังบริเวณกึ่งกลางลำคอ ซึ่งอาจพบเพียงก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้ และอาจพบอาการป่วยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เสียงแหบ หายใจลำบากหรือหายใจมีเสียงหวีด กลืนลำบากหรือรู้สึกเจ็บขณะกลืน เจ็บบริเวณลำคอ ต่อมน้ำเหลืองที่ลำคอบวม

นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติมาพบแพทย์ เบื้องต้นแพทย์จะซักประวัติโรคประจำตัว และการสัมผัสปัจจัยเสี่ยงต่างๆ รวมถึงการตรวจเลือดหากสงสัยว่าผู้ป่วยอาจเป็นมะเร็งไทรอยด์ แพทย์อาจวินิจฉัยด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น การทำอัลตราซาวด์ การตรวจด้วยไอโอดีนรังสีการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การทำไทรอยด์สแกน และการตรวจชิ้นเนื้อผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์จะได้รับการรักษาจากทีมแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญจาก สหวิชาชีพเพื่อวางแผนวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับชนิดและระยะโรค

นพ.จินดากล่าวว่า การรักษามะเร็งไทรอยด์อาจทำได้หลายวิธี เช่น การผ่าตัด การรับประทานไอโอดีนรังสี การรับประทานยาฮอร์โมนไทรอยด์ การฉายรังสี การทำเคมีบำบัด สำหรับการป้องกันโรคแม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดแต่เราสามารถป้องกันโรคได้จากการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เลือกรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูง และตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี หากตรวจพบโรคในระยะเริ่มแรกจะทำให้การรักษาได้ผลดีและมีโอกาสหายจากโรคสูง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน