เมื่อวันที่ 23 ต.ค. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ผ่านความเห็นชอบในวาระ 2-3 จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)แล้วว่า เห็นด้วยในเนื้อหาของกฎหมาย เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดินของทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ
ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ความเคลื่อนไหวคัดค้านนั้น ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า “เราไม่ได้คัดค้านในประเด็นเรื่องการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน เพราะกรณีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของสตง.อยู่แล้ว การที่มีเจ้าหน้าที่เคลื่อนไหวล่ารายชื่อกันนั้น ผมไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริง ก็ทราบตามรายงานข่าว แต่ยอมรับว่าปัจจุบัน ข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งที่รวดเร็ว ทุกคนมีเสรีภาพแสดงความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาที่ดำเนินการอยู่ อาจเป็นเพราะกลัวประเด็นอื่น หลังจากที่านกฎหมายกันแล้วเขาคงมองว่าการดำเนินการตรงนั้นอาจจะก้าวไปไกลกว่าที่คิดว่ามีอำนาจหน้าที่ ซึ่งเมื่อสภาได้พิจารณาแล้วก็เป็นที่ยุติ”
ประธานป.ป.ช. กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนของเราขณะนี้คือการดำเนินการเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. ทราบว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) จะส่งร่างกฎหมายไปยัง สนช.ในวันที่ 31 ต.ค.และจะเข้าวาระแรกในวันที่ 2 พ.ย.นี้ ทางป.ป.ช.ได้ชี้แจงความเห็นไปยังกรธ.แล้วเกี่ยวกับบริบทของการทำหน้าที่ที่มีปัญหาอุปสรรคขัดกับร่างกฎหมาย หากว่าท้ายที่สุดยังไม่มีการปรับแก้ตามข้อเสนอ ก็ยังมีชั้นกรรมาธิการวิสามัญ ยืนยันว่าจะใช้เวทีนี้ชี้แจงอีกครั้ง รวมถึงช่องทางกระบวนการอื่นๆ ที่จะทำให้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ซึ่งประเด็นที่อยากให้กรธ.ปรับแก้มากที่สุด คือเรื่องกรอบเวลาการทำงาน เพราะไม่อยากให้เจ้าที่ทำงานภายใต้แรงกดดัน และกังวลกับเรื่องของบทลงโทษ
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึงการรื้อฟื้นคดี 3 คดีใหญ่ที่จะยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีคดีที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 2 คดีว่า อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาล คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะมีข้อมูลเรื่องเดิมอยู่แล้ว มติกรรมการป.ป.ช.ได้มอบให้สำนักคดีไปดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อเสร็จแล้วก็จะยื่นคำร้องต่อศาลต่อไป
