ไอลอว์ เปิดข้อกฎหมาย กกต.ติดคุกไม่ง่าย มี กม.คุ้มครองอยู่ ระบุชัด ยกเว้นความผิดไว้ หากได้กระทําโดยสุจริต ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือ ปกครอง

ปัญหาการเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ กกต. ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่อย่างหนัก ถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นหลายกรณี ถึงขนาดทำให้ประชาชนบางส่วนออกมาเรียกร้องให้ดำเนินการทางกฎหมายกับ กกต.

อย่างไรก็ดี คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดำเนินคดีกับ กกต.ได้ โดยเพจ iLaw โพสต์ข้อกฎหมายให้ความรู้ในเรื่องนี้ ระบุว่า กกต.ต้องติดคุก ไม่ง่าย! มีกฎหมายคุ้มครองอยู่อีก

ในการจัดการ เลือกตั้ง66 ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 หรือ กฎหมายเลือกตั้ง ได้กำหนดหน้าที่ให้ กกต. ต้องทำไว้มากมาย พร้อมมีมาตราสำคัญที่กำหนดความรับผิดไว้หาก กกต. หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ทำหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ คือ มาตรา 23 ที่กำหนดว่า

มาตรา 23 ห้ามมิให้กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ผู้อํานวยการการเลือกตั้ง ประจําจังหวัด หรือเจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั้ง หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือ กระทําการอื่นใดอันเป็นการขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่ง ของคณะกรรมการ หรือคําสั่งของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัด หรือ เจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั้ง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งของคณะกรรมการ หรือปฏิบัติตามคําสั่งของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หากได้กระทําโดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครอง ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง

มาตรา 23 นี้มีขอบเขตครอบคลุมผู้จัดการเลือกตั้ง “ทุกระดับ” ตั้งแต่กรรมการ กกต. ที่มาจากการคัดเลือกตามระบบของ คสช. ระดับบริหารสำนักงานอย่าง แสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานกกต. ผู้รับผิดชอบระดับจังหวัด ระดับเขต รวมถึงกรรมการประจำหน่วย (กปน.) และผู้มีมาช่วยทำงานทั้งหมด ซึ่งกำหนดโทษไว้ในมาตรา 149 สำหรับคนที่ฝ่าฝืนมาตรา 23 ว่า ต้องระวางโทษ จําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี








Advertisement

ข้อน่าสังเกตเกี่ยวกับมาตรา 23 คือ ในวรรคสองได้กำหนดข้อ “ยกเว้นความผิด” เอาไว้ด้วยว่า “หากได้กระทําโดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครอง ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง” เท่ากับว่า กกต. หรือเจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น หากทำหน้าที่ไปตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด หรืออาจจะมีความบกพร่องบ้าง ผิดพลาดบ้าง ก็ไม่ต้องกังวลเพราะถ้าทำไปโดยสุจริตแล้วจะไม่ถูกดำเนินคดี

ข้อยกเว้นความผิดลักษณะนี้มีประโยชน์เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติให้สามารถทำงานไปได้โดยไม่ต้องกังวลใจหากมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจทุจริต แต่มาตรา 23 ก็กลับเขียนคุ้มครองครอบคลุมไปถึงระดับบริหารสูงสุดของกกต. ด้วย

หากมีการดำเนินคดีต่อกกต. ทั้งระดับบริหารและระดับเจ้าหน้าที่ จากการไม่ทำหน้าที่ให้ถูกต้องครบถ้วน หรือทำหน้าที่ไม่สุจริต ฝ่ายที่ยื่นฟ้องก็มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ากรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเลือกตั้งนั้นมาจากเจตนาไม่สุจริตด้วย การพิสูจน์ว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นหรือพิสูจน์ให้เห็นว่า กกต. ไม่ตั้งใจทำงานยังไม่เพียงพอ เพราะกกต. ได้รับความคุ้มครองไว้แล้วตามมาตรา 23 วรรคสอง

กฎหมายเลือกตั้ง หรือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขึ้นในยุคสมัยของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ “ตีเช็คเปล่า” ให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ นำโดย มีชัย ฤชุพันธ์ เป็นคนยกร่างกฎหมายสำคัญๆ ทั้ง 10 ฉบับ และพิจารณาผ่านออกมาใช้โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่แต่งตั้งมาโดยคสช. ทั้งหมดเช่นกัน กฎหมายเลือกตั้งจึงเป็นอีกหนึ่งในมรดกที่เกิดขึ้นและตกทอดมาจากยุคของ คสช.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน