“สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” หรือ “สินค้า GI” คือสินค้าที่ได้รับเครื่องหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (Geographical Indication) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้น GI จึงเปรียบเสมือนแบรนด์ของท้องถิ่นที่บ่งบอกคุณภาพ และแหล่งที่มาของสินค้านั้นๆ

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาลมุ่งผลักดันเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยมอบหมายให้กรมทรัพย์สินค้าปัญญา ที่ทำหน้าที่ในการขึ้นทะเบียน และคุ้มครองสินค้า GI ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และขยายช่องทางการตลาดเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่สินค้า เหล่านั้น และล่าสุดได้มีการลงนามความร่วมมือกับทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง นำสินค้า GI มาขายผ่านช่องทางออนไลน์ www.ShopAt24.com เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น โดยมีสินค้านำร่อง 6 รายการ ได้แก่ ศิลาดลเชียงใหม่ ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน กาแฟดอยตุง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง และผ้าครามธรรมชาติสกลนคร

ด้าน นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัทในกลุ่ม ซีพี ออลล์ เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้กับทุกคน ด้วยการส่งเสริม และสนับสนุนสินค้าเอสเอ็มอี และสินค้าที่มีนวัตกรรม จากผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมที่มีศักยภาพ โดยบริษัททำหน้าที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านช่องทางที่หลากหลายของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ซึ่งความร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาในครั้งนี้นับเป็นมิติใหม่ ที่นอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศได้แล้ว ยังตอบสนองและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และกลุ่มชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

ขณะที่นายนิคม ปุกแก้ว เจ้าของแบรนด์ทองศิริผ้าคราม ซึ่งได้เข้ามาจำหน่ายผ่าน ShopAt24 เป็นช่องทางออนไลน์ของทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง เล่าถึงสินค้า GI “ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร” ว่า เป็นภูมิปัญญาของชนเผ่าไทยโย้ย ที่อพยพมาจากฝั่งลาวตั้งแต่ พ.. 2396 ผ่านการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จุดเด่นคือการย้อมเย็น ทำให้มีสีสดติดทนนาน อีกทั้งครามแท้มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ป้องกันแสงยูวีได้เป็นอย่างดี

“แบรนด์ทองศิริจะมีการพัฒนารูปแบบสินค้าโดยดูจากความนิยมของลูกค้า ซึ่งสีคราม หรือสีน้ำเงินก็อยู่ในเทรนด์ทุกปีอยู่แล้ว ลูกค้าของเรามีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพราะสินค้าของเราสามารถใช้เป็นของขวัญของฝากได้ เรามีการรวมกลุ่มช่างทอกว่า 300 คน ช่วยกันผลิตผลงานที่มีคุณภาพ ผ่านกระบวนการคัดสรรอย่างดี ซึ่งไม่เพียงจะได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดถึงมือลูกค้า แต่งานของเรายังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในเครือข่ายให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถส่งลูกหลานเรียนหนังสือจนจบ และยังพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้มาต่อยอดรักษาภูมิปัญญานี้ไว้ด้วย” นายนิคมกล่าว

เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ “ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้” อีกหนึ่งสินค้า GI ที่ผู้บริโภคจะสามารถลองลิ้มชิมรสของแท้จากแหล่งกำเนิดได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ShopAt24 ด้วยตัวเมล็ดข้าวเรียวยาว หุงแล้วมีความนุ่ม สัมผัสได้ถึงกลิ่มหอมโดดเด่น ผ่านกระบวนการปลูกที่ดีที่สุด บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์สวยงาม จากแรงบันดาลใจที่อยากให้ข้าวที่ดีสุด จากแหล่งปลูกที่ดีที่สุด เพื่อเป็นของขวัญแก่คนสำคัญและผู้ที่รักที่สุดของทุกคน

นายสินสมุทร ศรีแสนปาง เจ้าของโรงสีศรีแสงดาว กล่าวว่า เกษตรกรที่ขายข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ได้ จะต้องเป็นกลุ่มเกษตรกรที่จดทะเบียนขอปลูกข้าวสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์กับกรมการข้าว หรือกรมทรัพย์สินทางปัญญาเท่านั้น และโรงสีจะต้องตั้งอยู่ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ด้วย ซึ่งทางโรงสีสนับสนุนให้การทำนาหยอดแทนนาหว่าน เพราะใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 5-8 กิโลกรัม จาก 35 กิโลกรัมต่อไร่ อีกทั้งการทำนาหยอดจะทำให้มีช่องว่างระหว่างต้นข้าวเยอะ ทำให้ข้าวทนแล้ง และได้ผลผลิตมากขึ้น

“เรารู้สึกดีใจที่ทางทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ให้โอกาสตรงนี้ เพราะจะทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสได้รับประทานข้าวหอมมะลิแท้จากทุ่งกุลาร้องไห้จริงๆ ซึ่งตนมีโอกาสได้ไปเห็นที่ประเทศจีน ข้าวหอมมะลิแท้ถือเป็นของสูง เขาจะเรียกลูกหลานมาร่วมวงทานกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ก็อยากจะให้คนไทยที่เคยลองข้าวหอมมะลิที่ว่าชั้นดี ได้ลิ้มลองข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้สักครั้งแล้วจะเห็นความแตกต่าง ซึ่งปีนี้ต้องบอกว่ามีแค่ไม่เกิน 300 กิโลกรัม” นายสินสมุทรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน