ในบรรดาสถานพยาบาลที่ขึ้นชื่อด้านจักษุแพทย์ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ซึ่งเกิดจากการระดมทุนของประชาชน คือสถานพยาบาลที่ประชาชนไว้วางใจได้ว่า ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะมีจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงยังทำงานอย่างแข็งขันร่วมกับพันธมิตรองค์กรต่างๆ เพื่อดูแลผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยขับเคลื่อนแวดวงสาธารณสุขไทยให้ก้าวหน้า
เพื่อดูแลผู้ป่วยด้านดวงตาที่มีจำนวนมาก รพ.บ้านแพ้ว จึงต่อยอดศูนย์จักษุและต้อกระจก ด้วยการสร้าง รพ.จักษุบ้านแพ้ว ขึ้นมาอีกแห่ง เพื่อเป็นแสงสว่างแก่ผู้ป่วยทางสายตาโดยเฉพาะ รองรับผู้ป่วยได้เต็มความสามารถ
แต่ รพ.บ้านแพ้วไม่ได้โดดเด่นด้านจักษุวิทยาเท่านั้น เพราะ นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการ รพ.บ้านแพ้ว เผยว่า รพ. มีความสามารถอย่างเต็มที่ในการรักษาโรคอื่นๆ และมีผลงานเป็นที่น่าพอใจในระดับแถวหน้าของประเทศ อาทิ ด้านการรักษาโรคมะเร็งปอด ที่สามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตรวจเชื้อร้ายได้ในเวลาเพียง 3 นาที
รวมถึงด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ ด้วยการมีห้องตรวจและผ่าตัดหัวใจที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในเขตสุขภาพที่ 5 ครอบคลุมจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
“ปัจจุบันเราขยายห้องดูแลผู้ป่วยด้านหัวใจใหญ่ มีทีมแพทย์สามารถผ่าตัดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ละเดือนเราผ่าตัดผู้ป่วยโดยเฉลี่ยถึง 30 ราย ซึ่งเยอะมาก และหมายความว่าเราสามารถช่วยผู้ป่วยที่รอคอยนานให้ได้รับบริการเร็วขึ้นด้วย”
ไม่เพียงแค่นั้น รพ.บ้านแพ้วยังให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาผู้ป่วยสูงวัย ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่มีปัญหาข้อเข่าอักเสบ และเส้นเลือดในสมองอุดตัน ซึ่งประการหลังนำไปสู่การเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยผอ.รพ.บ้านแพ้ว มั่นใจว่า ปัญหานี้จะหมดไป หากสามารถช่วยคนไข้ตั้งแต่เนิ่นๆ
“ผู้ป่วยที่เส้นเลือดสมองอุดตัน จนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต จะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เกิดแผลติดเชื้อ และถึงขั้นเสียชีวิตได้ คนไข้จะหดหู่ สิ้นหวัง ถ้าเราเอาก้อนอุดตันนั้นออก ช่วยเขาภายใน 6 ชั่วโมงแรกทัน คนไข้จะกลับมาฟื้นตัวและใช้ชีวิตได้ตามปกติ เราเห็นความสำคัญของปัญหานี้ จึงตั้งทีมเพื่อช่วยผู้ป่วยโดยเฉพาะ เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของโรงพยาบาลไม่แพ้การรักษาด้านอื่นๆ”
การป้องกันโรคร้ายตั้งแต่แรกเริ่ม นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ รพ.บ้านแพ้วให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการรักษา นพ.พรเทพ ยืนยันว่า การช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวนมาก จำเป็นต้องมีทีมแพทย์ฝีมือดีจำนวนมากเช่นกัน ปัจจุบัน รพ.บ้านแพ้วมีแพทย์ในสังกัดกว่า 160 คน ซึ่งแม้จะเพียงพอต่อสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ก็จำเป็นต้องเสริมทักษะทางการแพทย์ให้เท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเสมอ รวมถึงเพิ่มเติมความรู้ด้านอื่นๆ เช่น ความรู้ด้านการบริหารจัดการ เป็นต้น
ไม่เพียงแค่นั้น รพ.บ้านแพ้วยังวางแผนร่วมมือกับสถาบันศึกษาต่างๆ เพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์รายใหม่เข้ามาเสริมทีม รองรับจำนวนผู้ป่วยที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต
“ขณะนี้โรงพยาบาลกำลังวางแผนเปิดหลักสูตรแพทยศาสตร์ร่วมกับสถาบันการศึกษาที่สนใจ เพื่อพัฒนาและฝึกฝนแพทย์รุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ไว้รองรับผู้ป่วยในภายภาคหน้า เราอยากให้แพทย์ที่จบออกมาไม่ใช่แค่แพทย์ที่แค่เก่ง แต่ต้องมีจริยธรรมและจรรยาบรรณสูง สามารถเป็นต้นแบบของแพทย์ที่ดีได้ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย และเป็นประโยชน์ต่อประเทศ”
เหนืออื่นใด การป้องกันผู้คนจากการป่วยไข้จะสำเร็จไม่ได้ หากไม่มีใครมาโรงพยาบาล นพ.พรเทพ ชี้ว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบเดินห้างสรรพสินค้า ทำให้โรงพยาบาลต้องรีบปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน หากสามารถเข้าไปอยู่ในจุดที่คนชอบไปได้ น่าจะช่วยให้คนเข้าถึงสุขภาพที่ดีมากขึ้น
อย่างเดือนเมษายนที่ผ่านมา รพ.บ้านแพ้ว ได้ร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และ แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย จัดโครงการ ‘ตรวจไว สู้ภัยมะเร็งปอด’ นำนวัตกรรม AI เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจหามะเร็งปอดในระยะเริ่มต้น ให้บริการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปอดแก่ประชาชน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนจำนวนมาก เพราะสามารถใช้บริการได้สะดวกและรวดเร็ว
“มีข้อค้นพบจากงานวิจัยหลายชิ้นว่า การเจอผู้ป่วยตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าเจอตอนป่วยไปแล้ว และจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล ดังนั้น มิติของแวดวงสาธารณสุขในอนาคตไม่ได้เน้นที่การรักษาอย่างเดียว แต่ต้องเน้นการป้องกันด้วย
“ถ้าเราสามารถสร้างบรรยากาศโรงพยาบาลที่เป็นมิตร เข้าถึงง่าย หรือถ้าเราเปลี่ยนสักตึกหนึ่งในโรงพยาบาลให้เป็นห้าง หรือเป็นพื้นที่ให้ผู้คนอยากมาใช้บริการ น่าจะตอบโจทย์มิติของสาธารณสุขในอนาคตไม่น้อย”
แม้เป้าหมายในระยะยาวยังมีความท้าทายมากมายรออยู่ แต่ นพ.พรเทพ เชื่อว่า การเดินหน้าตั้งแต่วันนี้ รพ.บ้านแพ้ว จะเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญ ช่วยขับเคลื่อนแวดวงสาธารณสุขไทย และลดวิกฤตสุขภาพได้มหาศาลแน่นอน
