แอร์บัส A380 ใหญ่ไป-โรงแรมลอยฟ้าอำลาแล้ว

 

แอร์บัส A380 ใหญ่ไป-โรงแรมลอยฟ้าอำลาแล้ว – คําประกาศอันน่าตกใจแต่ก็ไม่เกินความคาด หมายของแวดวงการบินเมื่อสัปดาห์ก่อน คือการที่ บริษัท แอร์บัส ผู้ผลิตอากาศยานของยุโรป ยุติการผลิตเครื่องบินซูเปอร์จัมโบ้ A380 แล้ว การส่งมอบลำสุดท้ายจะมีขึ้นในปีค.ศ.2021 หรือปีพ.ศ.2564

อะไรทำให้เครื่องบินซูเปอร์จัมโบ้ A380 ไม่ประสบความสำเร็จ เป็นคำถามที่มีคำตอบรออยู่มากมาย

แอร์บัส A380

บีบีซีไทยถอดความจากรายงานของ แดเนียล โธมัส ผู้สื่อข่าวธุรกิจ บีบีซีนิวส์ว่า แอร์บัส A380 เป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เปรียบเป็น ‘โรงแรมลอยฟ้า’ หลังผลิตมาได้ 12 ปี การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากสายการบินเอมิเรตส์ ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดที่สั่งผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ได้ลดปริมาณการสั่งซื้อลง จาก 162 ลำ มาเป็น 123 ลำ

เครื่องบินแอร์บัส A380 เริ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1990 เพื่อเจาะตลาดสู้กับเครื่องบินโบอิ้ง 747

การพัฒนาเครื่องบินแอร์บัส A380 ลำแรก เริ่มขึ้นเมื่อต้นปี 1993 (พ.ศ.2536) เป็นเครื่องบินสองชั้นที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่รองรับสิ่งอำนวยความสะดวกตาม ความต้องการของสายการบินที่เป็นลูกค้า เช่น บาร์ ห้องเสริมสวย และร้านค้าปลอดภาษี ความหรูหราโอ่อ่านี้รองรับผู้โดยสารได้ 550 ที่นั่ง

A380 เปิดตัวเมื่อปี 2007 (พ.ศ.2550) โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลนส์เป็นผู้เริ่มให้บริการในเชิงพาณิชย์เป็นครั้ง แรกในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน เที่ยวบินสิงคโปร์ไปนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย

ขณะที่สายการบินแควนตัสเริ่มทำการบินโดย เครื่องบินแอร์บัส A380 ในปีถัดมา เส้นทางเมลเบิร์น-ลอสแองเจลิส ส่วนแอร์ฟรานซ์ และลุฟต์ฮันซา ต่างก็มีเครื่องบินรุ่นนี้ประจำฝูงบิน ขณะที่เอมิเรตส์เป็นสายการบินที่สั่งซื้อ A380 มากที่สุด

ตอนที่ A380 ทะยานขึ้นฟ้าให้บริการเป็นครั้งแรกนั้น จุดความหวังว่าอนาคตของการเดินทางทางอากาศได้มาถึงแล้ว และท้าทายบริษัทโบอิ้งของสหรัฐ ผู้นำในตลาดอากาศยานขนาดใหญ่

แต่ขณะที่แอร์บัสกำลังวางเดิมพันมูลค่ามหาศาลกับการคาดการณ์ที่ว่าบรรดาสายการบินต่างๆ จะต้องการเครื่องบินขนาดใหญ่ในอนาคตนั้น บริษัทโบอิ้งกลับพัฒนาเครื่องบินขนาดเล็กและปราดเปรียวกว่าอย่าง 787 ดรีมไลเนอร์ แอร์บัส

บรรดาสายการบินต่างๆ กลับมองว่ามันเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า

บางสายการบินชี้ว่า A380 มีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้ไม่ได้ผลกำไร เพราะมักมีที่นั่งว่างจำนวนมากในแต่ละเที่ยวบิน

วิลลี วอลช์ ผู้บริหารบริษัท IAG เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ กล่าวว่า เครื่องบินรุ่นนี้แม้จะดีแต่ก็มีราคาแพงเกินไป

นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น และการที่เหล่านักรณรงค์ตั้งคำถามเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการเดินทางด้วยเครื่องบินนั้น ทำให้สายการบินบางแห่งหันไปใช้เครื่องบินขนาดเล็กกว่ารุ่นอื่นๆ ของโบอิ้ง และแอร์บัส ที่มีความคุ้มค่าด้านการเงินมากกว่า

สายการบินบางแห่งเลือกที่จะรอดูข้อมูลของ เครื่องบินรุ่นใหม่ในตระกูล 777 ของโบอิ้ง ซึ่งจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าในปี 2020 โดยเป็นรุ่นที่มีที่นั่งน้อยกว่า มีพิสัยการบินไกลพอกัน มีความจุสัมภาระมากกว่า และมีเครื่องยนต์น้อยกว่า 2 เครื่องเมื่อเทียบกับ A380

….อ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่…

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน