อัลตราบุ๊กจาก‘เอซุส’ วีโว่บุ๊กเอส15ใหม่-สุดแจ่ม

อัลตราบุ๊กจาก‘เอซุส’ วีโว่บุ๊กเอส15 – เอซุส ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ชื่อดังจากไต้หวัน ที่กำลังเป็นดาวรุ่งครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งของโน้ตบุ๊กทำงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

ตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งด้วยโน้ตบุ๊กทำงานตระกูล วีโว่บุ๊ก (VivoBook) ที่ผสมผสานการออกแบบที่วิจิตรสวยงาม พร้อมสเป๊กสูง รองรับการเชื่อมต่อรอบด้านในราคาเข้าถึงได้ ทางผู้ทดสอบได้มีโอกาสทดลองใช้โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ของเอซุสเป็นเวลาราว 2 สัปดาห์ จึงนำความน่าประทับใจมาฝาก

ระบบปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 10

 

ความประทับใจแรกสุดเริ่มทันทีหลังเปิดกล่องพบกับอัลตราบุ๊ก เป็นสีสันสุดเตะตาของเครื่องที่ทางเอซุสออกแบบมาใหม่ล่าสุด

รุ่นที่ได้มาเป็นสีเขียวแก่ เรียกว่า เขียวไกอา (Gaia Green) เพิ่มเข้ามาในคอลเล็กชั่นสีเดิม ได้แก่ ขาวดรีมมี่ (Dreamy White) ดำอินดี้ (Indie Black) และแดงเรโซลูต (Resolute Red) แนะนำอย่างยิ่งให้ลองไปแอบส่องตามเว็บไซต์ดู

เพราะสีเหล่านี้สวยงามจริงจังมากบนพื้นผิวพลาสติกเนื้อดีผิวด้านพ่นลายโลหะเปลือยดูเรียบหรู มีโลโก้ของค่ายว่า Asus VivoBook สีเงินสะท้อนแสง และลายแถบยาวบริเวณขอบด้านที่สามารถเปิดออกได้ ยิ่งช่วยให้โดดเด่นขึ้นไปอีก

ลำโพงคุณภาพสูง

 

ความโดดเด่นด้านการออกแบบภายนอกยังไม่หมดเท่านี้ เพราะวีโว่บุ๊ก เอส 15 ใหม่รุ่นนี้ ยังมีจุดคอนทราสต์อื่นๆ สร้างความสะดุดตา อาทิ ฐานตัวเครื่องที่ทำจากอะลูมิเนียมกลึงยูนิบอดี้ ตามขอบของมันได้รับการตัดเหลี่ยมและเจียระไนมาอย่างดีเยี่ยม ทำให้เมื่อแสงตกกระทบจะส่องประกายวิบวับจับตา ผู้ทดสอบถืออัลตราบุ๊กรุ่นนี้ไปมารู้สึกราวกับว่ามีอัญมณีชิ้นงามอยู่ในอ้อมแขนเลยทีเดียว

ส่วนข้างใต้ฐานเครื่องนั้นมีแผงระบายความร้อนค่อนไปทางด้านหลัง ช่องลำโพงสเตอริโอที่ใต้เครื่องทั้งซ้ายและขวา รวมทั้งหมุดยาง 4 มุม และหมุดจิ๋วตรงกลางเครื่องทำหน้าที่ยกตัวเครื่องขึ้นไม่ให้ผิวด้านล่างสัมผัสกับพื้นที่วาง โดยหมุดยางกลางและคู่หลังจะหนากว่าคู่หน้าเล็กน้อยเพื่อยกตัวเครื่องด้านหลังให้สูงเทเข้าหาผู้ใช้ตามฟีเจอร์การออกแบบ ErgoLift ของเอซุสเดิมที่ตามปกติจะใช้สันขอบจอดันตัวเครื่องเมื่อเปิดจอขึ้นมา

การออกแบบทั้งหมดนี้สะท้อนความพยายามของเอซุสที่ต้องการแหวกแนวความจำเจของการออกแบบอัลตราบุ๊กตลาดกลางและล่าง โดยมุ่งไปที่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพควบคู่กับความโดดเด่นสวยงามในราคาคุ้มค่า แม้แต่แป้นพิมพ์แบ๊กไลต์ที่ทางเอซุสสร้างทำลายความน่าเบื่อของรูปลักษณ์จำเจด้วยการเปลี่ยนสีปุ่มเป็นสีเขียวมะนาว ตัดกับแบ๊กไลต์สีขาวเรียบๆ บนฐานเครื่องสีโลหะเปลือย เรียกว่า เป็นการออกแบบที่เรียกว่า ก่อกบฏต่อความจำเจเลยทีเดียว

ขอบขวา

 

ตอกย้ำด้วยความประทับใจถัดมา คือการเชื่อมต่อที่หลากหลายเหมาะสมกับการทำงานอย่างสะดวกสบาย โดยที่ขอบด้านซ้ายของเครื่องมีตั้งแต่ปลั๊กไฟ DC ช่อง HDMI สำหรับต่อออกโทรทัศน์ทั้งภาพและเสียง USB 3.0 รวมทั้ง USB-C และมินิสเตอริโอสำหรับหูฟังมินิแจ๊กขนาด 3.5 มิลลิเมตร ขณะที่อีกด้านหนึ่งมี USB 2.0 อีก 2 ช่อง พร้อมช่องอ่านการ์ด microSD

ขาดก็เพียงแต่พวก Ethernet port และ Thunderbolt 3 port แต่สำหรับอัลตราบุ๊ก ราคาช่วงนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว เพราะส่วนตัวผู้ทดสอบถือว่าโน้ตบุ๊กที่ดีต้องมีพอร์ตเชื่อมต่ออย่าง USB-A อย่างน้อย 3 พอร์ตขึ้นไป (ต่อ mouse และ external storage

และมีสำรองไว้อีกช่องเผื่อแบบมีเพื่อนเอา Flash drive มาเสียบโอนงาน อารมณ์นั้น) ช่วยให้การทำงานสะดวก และไม่ต้องพกส่วนต่อขยายใดๆ ขอให้ทางเอซุสคงความยอดเยี่ยมนี้เอาไว้ตลอดไป

ทว่า สิ่งที่ผู้ทดสอบแนะนำนั้นมองว่า ทางเอซุสน่าจะลองหาวิธีการออกแบบที่ทำให้การเปิดฝาโน้ตบุ๊กสามารถทำได้ด้วยมือเดียวหากวางไว้กับพื้น สังเกตว่าบริเวณสันของขอบด้านล่างนั้นออกแบบมาให้สามารถสอดนิ้วเข้าไปงัดเปิดได้ง่ายแล้ว แต่ด้วยความที่น้ำหนักฐานตัวเครื่องที่เบา ทำให้ยังเปิดฝาขึ้นมาไม่ได้ด้วยมือเดียวอยู่ดี

เจียระไนขอบวาววับ

 

จอภาพของ วีโว่บุ๊ก เอส 15 รุ่นใหม่นี้ เป็นจอ LCD ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดที่ Full-HD (1,920 x 1,080 พิกเซล) มีขอบบางตามสไตล์การออกแบบ NanoEdge เพิ่มอัตราส่วนจอภาพต่อพื้นผิวเครื่องเป็นร้อยละ 88 ทำให้น่ามองและแลดูทันสมัยกว่าโน้ตบุ๊กขอบจอหนาๆ ส่วนใหญ่ ทว่าแสงสว่างอาจไม่เพียงพอนักในที่แดดจ้าๆ

ขนาด 15 นิ้ว ขอแนะนำว่าเป็นขนาดที่ผู้ใช้ควรหาซื้อที่สุด (17 นิ้วจะมองสะดวกขึ้นอีก แต่อาจพกพาไม่สะดวก) หากต่ำกว่านี้จะทำให้การทำงานแบบ multi-tasking ไม่สะดวก ยกตัวอย่าง เช่น การแปลเอกสาร 2 ชิ้น วางคู่กันบนจอภาพขนาด 13 นิ้ว แค่นี้ก็อึดอัดแย่แล้ว

สำหรับรุ่นนี้ยังพกพาใส่เป้สะพายได้พอดี มีความกว้าง 35.8 ยาว 23.3 หนา 1.6 ม.ม. น้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม

ด้านประสบการณ์การใช้งานแป้นพิมพ์ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สามารถพิมพ์ต่อเนื่องได้นานโดยไม่เมื่อยมากเป็นผลมาจากระยะทางลึกของปุ่ม 1.4 ม.ม. และปุ่มมีความไวค่อนข้างสูง การเด้งกลับขึ้นมามีความเฉียบขาดค่อนข้างดี แบ๊กไลต์สีขาว (ยกเว้นปุ่ม Enter สีเขียวมะนาว) ช่วยทำให้เครื่องหมายต่างๆ บนปุ่มเห็นชัดขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน

โดยแป้นพิมพ์ยังเป็นฟูลไซซ์ มีที่พักมือค่อนข้างกว้าง แต่มีความมั่นคงไม่ยุบหรือให้ความรู้สึกป๋องแป๋ง ขณะที่ทัชแพ็ดนั้นมีความไวและแม่นยำปานกลาง ไม่พบปัญหาเรื่องการโดดไปมา แต่มองว่าน่าจะกว้างกว่านี้ได้สักเล็กน้อยจะดีมาก ที่สำคัญคือ ทัชแพ็ดจะวางตัวค่อนไปทางด้านซ้าย ทำให้ที่พักมือด้านซ้ายแคบกว่าด้านขวา

ฐานส่วนล่างแน่น 

ผู้ใช้ที่มือใหญ่ๆ อาจจะเซ็งเล็กน้อย (เช่นผู้ทดสอบ) จะให้ดี เอซุสควรนำทัชแพ็ดวางไว้กึ่งกลาง

วีโว่บุ๊ก เอส 15 (ปี 2020) ใช้ขุมพลังจากหน่วยประมวลผล (ซีพียู) AMD Ryzen 5 4500U ซีพียูรุ่นแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร (nm) เป็นซีพียูแบบ Hexa-core หรือ 6 คอร์ ความถี่สัญญาณนาฬิกาฐาน 2.3 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) และเทอร์โบสูงสุด 4 GHz หน่วยความจำแรมแบบ DDR4 ความถี่สัญญาณนาฬิกา 3,200 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ความจุ 8 กิกะไบต์ (GB)

หน่วยประมวลผลกราฟิก (จีพียู) แบบบิลด์-อิน รุ่น AMD Radeon Graphics แบบ Hexa-core ความถี่สัญญาณนาฬิกา 1,500 MHz หน่วยเก็บข้อมูลแบบ NVMe SSD ขนาด 500 GB ผ่าน อินเตอร์เฟซเชื่อมต่อ PCIe 3.0

และระบบเสียงได้รับการปรับแต่งโดยค่าย harman/kardon ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home จากค่ายไมโครซอฟท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่แถมมากับเครื่อง ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยผ่าน Web Cam ผ่านฟีเจอร์ Windows Hello

ผลการทดสอบพบว่า วีโว่บุ๊ก เอส 15 มีประสิทธิภาพรองรับการทำงานทั่วไปและความบันเทิงพื้นฐานได้อย่างเหลือเฟือ ตั้งแต่การพิมพ์งาน ดูภาพยนตร์ความละเอียด Full-HD ฟังเพลง และเล่นเกมทั่วไปที่ไม่ใช้กราฟิกมากนัก เช่น Two-point Hospital ก็เล่นได้ที่กราฟิกสูงสุด ถือว่าน่าประทับใจมากสำหรับจีพียูบิลด์-อิน

ขอบซ้าย

 

ด้านเสียง ผลทดสอบพบว่าไม่ดังเท่าที่ควร หากนำไปเปิดในที่โล่งกว้างหรือมีเสียงดังรบกวนมากๆ ก็จะไม่ได้ยินชัดเจน แต่หากอยู่ลำพังในที่เงียบๆ นั้นเสียงที่ได้มีคุณภาพน่าประทับใจมาก เป็นลำโพงเด่นเสียงกลาง พุ่งเข้าหาผู้ใช้ เสียงเบสลูกเล็กๆ พอหายคิดถึง แต่มีเวทีเสียงค่อนข้างกว้าง แยกเสียงเครื่องดนตรีและนักร้องได้ชัดเจนมาก เสียงสูงออกนุ่มนวล ไม่แหลมคมบาดหู

ด้านแบตเตอรี่ภายในที่มากับอัลตราบุ๊ก รุ่นนี้มีขนาดที่ 4,200 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) ถือว่าเป็นขนาดทั่วไปสำหรับโน้ตบุ๊กช่วงราคานี้ โดยการทดสอบใช้งานพบว่าสามารถใช้งานได้สูงสุด 14 ชั่วโมง ที่ความสว่างครึ่งเดียว และปิดการเชื่อมต่อสัญญาณทั้งหมด ถือว่ายอดเยี่ยมกว่าที่คาดไว้มาก (พิมพ์งานได้สบายมาก)

สรุปแล้ว วีโว่บุ๊ก เอส 15 ปี 2020 เป็นผลลัพธ์จากความสำเร็จของเอซุสต่อความมุ่งมั่นทางด้านวิศวกรรม เพื่อสร้างสรรค์ฮาร์ดแวร์ที่จะตอบสนองความต้องการผู้บริโภคให้ได้ดีที่สุดในราคาที่เข้าถึงได้มีความพิเศษหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่วิจิตรสวยงาม สีสันที่เตะตาสเป๊กที่รองรับการทำงานทั่วไปครอบคลุม และการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ควบคู่กับความเบาบางทันสมัย

แม้จะไม่ใช่โน้ตบุ๊กสำหรับทำงานที่สลับซับซ้อนถึงขั้นตัดต่องานวิดีโอ แต่สำหรับการทำงานและความบันเทิงทั่วไปแล้วผู้ทดสอบมองว่า วีโว่บุ๊ก เอส 15 ปี 2020 เป็นอัลตราบุ๊กคุ้มค่าดีที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมาปีนี้

วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย สนนราคาเริ่มต้นที่ 20,990 บาท

โดย…จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน