มอบ.เพิ่มคุณสมบัติ อธิการบดี ต้องไม่เกิน 60 ปี ‘หมอธี’ ยัน ไม่ตรงสเป๊กไม่เสนอทูลเกล้าฯ

อธิการบดี – วันที่ 18 ธ.ค. ศ.พิเศษจอมจิน จันทรสกุล นายกสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (มอบ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภามอบ.เมื่อเร็วๆ นี้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมอบ. แทนรศ.นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดีมอบ. ที่กำลังจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนเม.ย. 2562 ซึ่งเท่าที่ทราบ ในการประชุมภามอบ. วันที่ 22 ธ.ค.นี้ ทางฝ่ายบริหารจะเสนอให้สภาฯ เพิ่มคุณสมบัติผู้เข้ารับการสรรหาอธิการบดี ให้ไม่เกิน 60 ปี แต่ตนยังไม่เห็นรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้หากมีการเสนอ ก็คงต้องหารือ กรรมการสภาฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน รวมถึงต้องฟังเหตุผลจากฝ่ายบริหาร ซึ่งอาจจะกังวล ในเรื่องข้อกฎหมาย เพราะเคยมีกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น

โดยให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) กาญจนบุรี ที่แต่งตั้งนายปัญญา การพานิช เป็นรักษาราชการแทนอธิการบดีมรภ.กาญจนบุรี เพราะเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากตำแหน่งอธิการบดี เป็นตำแหน่งประเภทผู้บริหารตาม มาตรา 18 (ข) พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 และมาตรา 55 (2) ของพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ระบุ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดยที่พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 มาตรา 19 กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องอายุว่าข้าราชการซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้วเป็นอันพ้นจากราชการ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

“ทางฝ่ายบริหารเองก็อาจกังวลว่า จะมีการทำผิดกฎหมาย จึงเสนอให้แก้ไขระเบียบการสรรหาอธิการบดี ซึ่งทางสภามอบ.เอง คงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน เชื่อว่าจะไม่มีใครสามารถกดดันให้สภาฯ อนุมัติหรือไม่อนุมัติอะไรได้ เพราะสภาฯ ที่เป็นนักกฎหมาย และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคน การจะมากดดันให้สภาฯ ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน” ศ.พิเศษจอมจิน กล่าว

รศ.นงนิตย์ กล่าวว่า การเพิ่มคุณสมบัติดังกล่าว เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น กรณีรักษาการอธิการบดีมรภ.กาญจนบุรี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยในคำสั่งศาลเขียนไว้ชัดว่า ผู้ที่จะสามารถดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัฐ ได้จะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี ซึ่งมอบ. เป็นมหาวิทยาลัยในระบบราชการ พอมีคำพิพากษาออกมาเช่นนี้ก็ต้องปฏิบัติตาม ขณะที่นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ให้สัมภาษณ์ว่า สภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะต้องไปปรับแก้ระเบียบของตนเองให้เหมาะสม หากเสนอชื่อผู้ที่อายุเกิน 60 ปี ขึ้นมาให้พิจารณาก็จะไม่เสนอขึ้นทูลเกล้าฯ

ทั้งนี้คำสั่งศาลดังกล่าว ไม่ได้หมายถึงเฉพาะอธิการบดีเท่านั้น แต่หมายถึงตำแหน่งประเภทผู้บริหารตาม มาตรา 18 (ข) ซึ่งรวมถึงคณบดี ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้เชิญมหาวิทยาลัย ไปหารือ และขอให้ทำความเข้าใจกับคณบดี และผู้ดำรงตำแหน่งทางการบริหารที่มีอายุเกิน 60 ปี โดยขอให้แสดงความสมัครใจลาออก ในส่วนของมอบ. มีคณบดีที่มีอายุเกิน 60 ปี 2 ราย ผู้อำนวยการสำนัก 3 ราย คณบดีแสดงสปิริตลาออกไปแล้ว 1 ราย

ยอมรับว่า มหาวิทยาลัยเองค่อนข้างลำบากใจ เพราะในช่วงที่เราตั้งบุคคลเหล่านี้เป็นคณบดี ถือว่ามีความจำเป็นระดับหนึ่ง ซึ่งทุกคนล้วนทำประโยชน์ให้มหาวิทยาลัย แต่ปัญหาคือถ้าเราไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เราอาจมีความผิด และในระบบราชการการแต่งตั้งที่ไม่ชอบ สภาฯ หรืออธิการบดีที่เป็นผู้เสนอก็อาจต้องรับผิดทั้งทางละเมิดและทางอาญา ตรงนี้คือประเด็นที่เรากังวลใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อครหาว่า อธิการบดี จะไปกดดันให้สภาฯ เพิ่มคุณสมบัติผู้เข้ารับการสรรหา เพื่อให้คนของตนเองได้เป็นอธิการบดี รศ.นงนิตย์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นความเข้าใจผิด เรื่องนี้เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนจะเริ่มการสรรหา และการกำหนดเรื่องอายุ เริ่มจากนายกสภาฯ ซึ่งได้รับเชิญจากสกอ. ไปหารือ

ต่อมาได้มีการนำเรื่องนี้มาหารือในที่ประชุมสภาฯ ครั้งที่ผ่านมาว่า การกำหนดอายุผู้ดำรงตำแหน่งบริหารตามาตรา 18 (ข) ของพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาพ.ศ.2547 เป็นประเด็นที่เราควรจะต้องพิจารณาหรือไม่ การที่บอกว่า อธิการบดีไปกดดัน ถือเป็นการกล่าวหาเลื่อนลอย เพราะถ้าเรากำหนดให้ผู้ที่เข้ารับการสรรหาเป็นอธิการบดีต้องอายุไม่เกิน 60 ปี จะมีคนในมหาวิทยาลัยจำนวนมาก ได้ประโยชน์ มีคนที่มีศักยภาพที่จะเป็นแคนนิเดตหลายคน แต่ถ้าไม่กำหนดอายุ จะมีผู้ที่อายุ 60 ปี ที่ได้ประโยชน์เพียงคนเดียว

“ยืนยันว่า การที่กำหนดคุณสมบัติผู้เข้ารับการสรรหาอธิการบดีให้ไม่เกิน 60 ปี ดิฉันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะจะหมดวาระการในเดือนเมษายน 2562 และกำลังจะเกษียณอายุราชการพ้นไปจากมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยก็ไม่สามารถจ้างมาเป็นตำแหน่งทางการบริหารได้ ตามที่ศาลตัดสิน หรือหากต่ออายุ ก็จะต้องต่อเป็นอาจารย์ นักวิชาการเท่านั้น” รศ.นงนิตย์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน