สาวติดโควิด จากคลัสเตอร์ผับทองหล่อ 18วันไร้หน่วยงานช่วย พึ่งสมุนไพรต้มกินเองจนดีขึ้น วอนผู้เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจ หากหายดี ขอให้ข้อมูลเป็นวิทยาทาน
วันที่ 5 พ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ทีมงานเพจ Survive – สายไหมต้องรอด โดยผู้ช่วยสส.เขตสายไหม เดินทางลงพื้นที่ช่วยเหลือ หญิงสาว วัย 25 ปี ชาว เขตสายไหม กรุงเทพ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด จากคลัสเตอร์ผับโควิดทองหล่อ
โดยในคลิปไลฟ์สด ระบุว่า “16 วัน พิชิตโควิด โดยไม่มีรถพยาบาลมารับ ยังกักตัวเองอยู่ในบ้านเพียงลำพัง” ในคลิปนั้น หญิงสาวดังกล่าว เล่าว่า ราวต้นเดือนเม.ย. ตนใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิดที่มีคลัสเตอร์ร้านคริสตัลทองหล่อมา จึงไปตรวจหาเชื้อโควิดที่รพ.แต่ปรากฎว่า ไม่ติดเชื้อ หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ตนเองได้มีอาการป่วยน้ำมูกไหลและไอ ปวดเบ้าตา จึงกักตัวอยู่บ้าน และวันที่ 16 เม.ย. ตนเองเริ่มมีอาการหนักขึ้นจึงตัดสินใจขับรถไปตรวจซ้ำอีกครั้ง ที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่นนทบุรี
จากนั้นก็กลับมาดูอาการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน ช่วงระหว่างที่ตนดูแลตัวเองอยู่บ้าน มีอาการไอและมีไข้แต่ก็พอดูแลตัวเองได้อยู่ และวันที่ 18เม.ย. ทางรพ.ติดต่อกลับมาบอกว่า ตนเองนั้นติดเชื้อโควิด ทางรพ.จึงถามว่ามีประกันอะไรไหม ตนจึงตอบไปว่า มีบัตรทอง 30 บาท รพ.จึงบอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง ตนเองก็ได้แต่รอ แต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย
กระทั่งวันที่ 19 เม.ย. ตนให้เพื่อนซื้อยาวิตามินทั้งวิตามินบี วิตามินซี แบบ 1,000 กรัม มากินตอนเช้าและก่อนเข้านอน ก็ช่วยลดไข้ได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังแน่นหน้าอกอยู่ พอมาวันที่ 20-24 เม.ย. ตนเองเริ่มมีอาการหนักขึ้น แน่นหน้าอกหายใจไม่ค่อยสะดวก ไอ ปวดหัว ปวดเบ้าตา หนาวไปถึงกระดูก ขณะนั้นอาการหนักมาก ตนจึงโทรศัพท์ไปหมายเลขต่างๆ ที่รัฐบาลแจ้งไว้เพื่อให้การช่วยเหลือ แต่ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือสักหน่วยงาน
แต่ยังดีที่มีทางเพจ ”สายไหมต้องรอด” นำถุงยังชีพของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น ตนจึงตัดสินใจโทรหาแม่ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศว่า ตนติดโควิด แม่ตนจึงบอกวิธีรักษาแบบพื้นบ้านโดยการให้ต้มน้ำเปล่าผสมกับน้ำส้มสายชูเล็กน้อย แล้วสูดดมควันจากหม้อต้มเพื่อจะได้หายใจสะดวกขึ้น และนำหอมแดงมาต้มใส่น้ำเพื่อกินแทนน้ำเปล่า และนำข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดมาต้มใส่น้ำกิน 3 เวลาทุกวัน เช้า, กลางวัน, เย็น
ต่อมา 25 เม.ย. ตนเริ่มรู้สึกว่าอาการตัวเองเริ่มดีขึ้น ไม่มีไข้ เริ่มหายใจได้ปกติ ตนจึงรักษาด้วยวิธีนี้เรื่อยมาจนถึงตอนนี้ ตนอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือ ติดต่อมาถามอาการ พาไปเอ็กซเรย์ปอดว่ายังมีเชื้อหลงเหลืออยู่ไหม ถ้าไม่มีเชื้อแล้ว จะได้นำข้อมูลการรักษานี้เป็นวิทยาทานสำหรับผู้ป่วยท่านอื่นต่อไป
