สาวร่ำไห้ รถยางแตกกลางดึก เข็นไกลหลาย กม. เจอ2พลเมืองดีช่วย ในวันที่ยากลำบาก

วันที่ 9 พ.ค. 67 น.ส.จิระณัฐ ผิวพันธุ์ อายุ 25 ปี เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ประกาศตามหาพลเมืองดีทั้ง 2 คน ที่ช่วยเหลือในวันที่ยากลำบาก รถยางแบนต้องเข็นมาเติมลมยางถึง 20 กิโลเมตร หากไม่มีพลเมืองดีทั้งสองคนนี้ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง

น.ส.จิระณัฐ กล่าวว่า ตอนเพิ่งเรียนจบและเข้าทำงานพาร์ทไทม์ที่หนึ่งซึ่งห่างจากห้องพักประมาณ 20 กิโลตั้งแต่บ่าย 3 ถึง 3 ทุ่ม เพราะหลังจากเลิกงานแล้วจะมาเอารถขับกลับไปที่ห้องพัก แต่ปรากฏว่ารถยางแตก เนื่องจากเราซื้อมือ 2 มาแล้วสภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ตนไม่รู้จะทำยังไงเพราะร้านแถวนั้นมันก็ปิดหมดแล้วก็เลยจูงรถไป บังเอิญไปเจอบ้านคนหนึ่งที่อยู่กันหลายคนตนจึงไปถามว่ามีร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์แถวนี้ไหม ซึ่งพี่เขาก็บอกให้จูงข้ามไปอีกนิดนึงจะเห็นร้านซ่อม เมื่อตอนไปถึงแล้วปรากฏว่าร้านมันปิด ตนได้ไปตะโกนอยู่หน้าร้านแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ

ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไงทั้งรู้สึกเหนื่อยอยากกลับบ้าน เพราะว่าพรุ่งนี้จะต้องทำงานอีก น้ำตาก็เริ่มคลอเบ้า สายตาไปเห็นปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างประมาณ 200-300 เมตร เมื่อไปถึงก็ตั้งใจอยากจะให้เด็กปั๊มช่วยเอารถไปซ่อมให้แล้วจะให้ค่าน้ำมัน แต่ไปถึงก็ไม่มีรถที่จะพาไปซ่อมเลย

จากนั้นตนก็จูงรถออกจากปั๊มมาต่อ ตนใจจูงกลับไปทางเดิมเพราะ แถวนั้นมีตลาด คิดว่าน่าจะมีรถกระบะที่สามารถขนรถตนได้ แต่ยังไม่ทันที่จะเดินไปถึงตลาดมีผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์คันนึงขับผ่านเราไปและเขาก็หันมามองหลายรอบมากเหมือนสงสัยว่าเราเป็นอะไร จากนั้นพี่เขาก็เลี้ยวเข้าบ้านของพี่เขา

เมื่อเราเดินไปถึงหน้าบ้าน พี่เขาก็เดินออกมาถามว่ารถเป็นอะไร ซึ่งตอนนั้นเราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังพร้อมกับร้องไห้สะอื้น และก็มีพี่อีกคนนึงเดินออกมาถามว่า บ้านอยู่ที่ไหนเดี๋ยวจะไปส่งที่บ้าน เราก็เลยบอกพิกัดไป ซึ่งพี่เค้าบอกว่าขอให้พี่ไปส่งได้ไหม เพราะเห็นว่าตอนนั้นมันดึกมากแล้ว พี่อีกคนนึงก็ให้เราเอารถกระบะขึ้นรถแล้วจะขับรถไปส่งที่ห้องพัก

ตอนนั้นเราก็ร้องไห้หนักมาก แต่พี่เขาก็ปลอบใจ บอกว่าไม่เป็นไรมาช่วยแล้ว พร้อมกับให้กำลังใจ ให้เราสู้ต่อไปถึงแม้ว่าวันนี้มันจะเหนื่อยก็ตาม แล้วเขาก็ยกตัวอย่างว่าก่อนที่เค้าจะมีรถกระบะแบบนี้ ที่ผ่านมาเค้าก็ขี่รถรถจักรยานยนต์เหมือนกับเรามาก่อน จึงอยากให้กำลังใจเราต่อไป

หลังจากนั้น พี่พลเมืองดีทั้งสองคนก็มาส่งถึงที่บ้าน เราก็อยากตอบแทนพี่เขาโดยการให้เงิน เป็นการตอบแทน แต่พี่เค้าไม่รับแล้วบอกว่าถ้ามีโอกาสได้กลับไปทำงานแถวนั้น ก็มาเยี่ยมที่บ้านได้ ซึ่งเรารู้สึกดีใจมากที่ได้เจอพี่ทั้งสองคนเพราะนึกไม่ออกเลยว่า ถ้าหากตอนนั้นไม่ได้เจอพี่เขาที่มาช่วยเหลือแบบนี้ เราจะเป็นยังไง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน