น้ำตกร้อยชั้นพันวัง หินลูกช้าง-เมืองตรัง – จ.ตรัง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังขึ้นชื่อหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ “น้ำตกร้อยชั้นพันวัง” ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าใส-ป่าแก่ หมู่ที่ 11 บ้านร้อยชั้นพันวัง ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง โดยมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม เป็นผู้ดูแล

มีลักษณะเป็นธารน้ำตกหินปูนหลายชั้น ที่ทอดตัวลดหลั่นกันมาจากเขานอจู้จี้ จนกลายเป็นวังน้ำหลายๆ วัง และเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแห่งนี้

ทางเดินไปน้ำตกร้อยชั้นพันวัง

ส่วนแหล่งตาน้ำผุดอยู่ที่บริเวณบ้านแผ่นดินเสมอ จึงเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญที่ไหลลงสู่แม่น้ำตรัง และเป็นแหล่งธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของจ.ตรัง เนื่องจากมีความโดดเด่นทางธรณีวิทยาสูง และมีศักยภาพ ในการใช้ประโยชน์ทางการท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความสวยงามของน้ำตก และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ตามแนวเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่กำหนดไว้ได้

น้ำตกร้อยชั้นพันวัง

อีกทั้งบริเวณโดยรอบน้ำตก ยังร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์และสัตว์ป่าหลายชนิด โดยเฉพาะนกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ พบได้ในบริเวณป่าที่ราบต่ำใกล้น้ำตก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวด ในการเข้าใช้พื้นที่ของนักท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันการรบกวน ถิ่นที่อยู่อาศัยและความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า

น้ำตกลดหลั่นเป็นชั้น

นอกจากนั้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด และความปลอดภัย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม จึงได้ออกมาตรการควบคุมพื้นที่ โดยจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยว นำรถจักรยานยนต์ รถยนต์ อาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เข้าไปในบริเวณน้ำตก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้จัดโซนพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถ และนั่งรับประทานอาหาร ไว้บริการตรงลานทางเข้า เพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยว แต่บางครั้งจำเป็นต้องปิดพื้นที่ไม่อนุญาตให้ นักท่องเที่ยวเข้าเล่นน้ำบริเวณน้ำตก ในช่วงเวลาที่ฝนตกหนักอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดจากดินสไลด์ และน้ำป่าไหลหลาก ถือเป็นมาตรการดูแลความปลอดภัยในบางช่วง

แหล่งต้นน้ำไหลลงสู่แม่น้ำตรัง

สำหรับการเดินทางมาน้ำตกร้อยชั้นพันวัง จากตัวเมืองตรัง ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่าน อ.ห้วยยอด ตรงไปยังอ.วังวิเศษ เมื่อถึงบ้านคลองชี ให้เลี้ยวขวาเข้าทางถนนเส้นบ้านอ่าวตง-บ้านบางคราม อีกประมาณ 29 กิโลเมตร ก็ถึงน้ำตกร้อยชั้นพันวัง

สอบถามข้อมูลได้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม หมายเลขโทร. 08-7477-1105

เมืองตรังยังมี “คลองหินลูกช้าง” แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ในอ.หาดสำราญ บริเวณคลองบ้านทุ่งกอ ที่เชื่อมต่อไปยังลุ่มน้ำปะเหลียน ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์ ป่าชายเลนผืนใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ ในเนื้อที่ประมาณ 4,200 ไร่

การท่องเที่ยวมาได้ 2 เส้นทาง โดยเส้นทางท่าดินแดง ต้องผ่านทั้งถนนลาดยาง คอนกรีต และดินแดง นับจากแยกบ้าหวี เข้ามาประมาณ 3 กิโลเมตร แต่สามารถลงเรือคยัก เรือพลีส หรือเรือหางยาว ไปชมคลองหินลูกช้างที่อยู่ใกล้ๆ ได้เลย

ผีเสื้อบริเวณน้ำตก

ส่วนเส้นทางท่าย่าหยัด แม้จะเดินทางด้วยรถมาได้ใกล้กว่า แต่ต้องนั่งเรือผ่านป่าชายเลนออกไปประมาณ 5 นาที จึงจะถึงคลองหินลูกช้าง ซึ่งก็แล้วแต่ความชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่จะเลือกเส้นทางไหน และขณะนี้หลายฝ่ายกำลังเร่งพัฒนาให้เกิดความสะดวก หรือปลอดภัยมากที่สุด

จุดเด่นที่สุดของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้คือ การเที่ยวชม ก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนโขลงช้างกำลังเล่นน้ำอยู่ จำนวน 6 สาย สายละ 8-10 เชือก โดยบางเชือกอยู่ในป่าโกงกาง บางเชือกอยู่กลางคลองน้ำเค็ม

หินลูกช้าง

ธรรมชาติที่สมบูรณ์

การสำรวจจากกรมทรัพยากรธรณี พบว่าหินเหล่านี้ถูกพัดพามาจากเขาบ้าหวี ซึ่งมีระยะทางห่างกันหลายกิโลเมตร โดยเป็นภูเขาหินทรายที่มีการแตกหักภายในจำนวนมาก และอยู่ในช่วงยุคครีเทเซียส ถึงยุคจูราสสิค มีอายุประมาณ 66-140 ล้านปี นับเป็นจุดอันซีนที่น่าถ่ายรูป หรือเซลฟี่ มากที่สุด

นอกจากนั้น ยังมีตำนาน หรือความเชื่อเล่าต่อๆ กันมาว่า ในอดีตบริเวณป่าชายเลนของอ.หาดสำราญ มีโขลงช้างป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ขณะที่กำลังเดินอยู่กลางคลองหินลูกช้างเพื่อที่จะขึ้นฝั่งนั้น ได้ถูกคำสาปจากทวดเจ้าไหม ซึ่งเป็นผู้ที่มีคาถาอาคมและทรงอิทธิฤทธิ์ในพื้นที่ กระทั่งกลายเป็นโขดหินโขลงช้างที่สวยงามและแปลกตายืนนิ่งอยู่เป็นจำนวนมาก ในลักษณะหันหน้ามุ่งสูงทิศเหนือ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงน้ำนิ่ง หรือน้ำทะเลลงต่ำสุด คือ 5-8 ค่ำ โดยเฉพาะในช่วงก่อน 8 โมงเช้า

นักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือไปชมอุโมงค์ต้นไม้ ซึ่งเป็นป่าโกงกางโค้งเข้าหากัน ในเส้นทางที่ทะลุไปยังคลองหอยดล ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร พร้อมเรียนรู้พันธุ์ไม้ป่าชายเลนนานาชนิดที่เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำน้อยใหญ่

ธารน้ำตกหินปูนหลายชั้น

รวมทั้งชมวิถีประมงพื้นบ้าน ทั้งการดำน้ำเก็บสาหร่ายขนนก บริเวณคลอง เกาะกลาง ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าทั่วภาคใต้ มารับซื้อถึงที่ในราคากิโลกรัมละ 35 บาท จนสร้างรายได้ให้ชาวบ้านคนละนับพันบาทต่อวัน ตลอดจนได้ชมกระชังเลี้ยง ปลากะพง ปูนิ่ม หอยแมลงภู่ หรือการวางอวน ตกปลา

เมื่อสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ ครบถ้วนแล้ว นักท่องเที่ยวจะขึ้นมาบนแพชุมชนเจ้าสำราญ 483 ที่จุได้ถึง 50 คน เพื่อ รับประทานอาหารเที่ยง ซึ่งประกอบไปด้วยเมนูทะเลพื้นบ้านสดๆ อาทิ น้ำพริกสาหร่าย แกงกะทิปู แกงหอยปากแดง คั่วปูนิ่มสับปะรด ยำหอยแครงลิง ยำผักกูดกุ้งสด หอยแมลงภู่ซีฟู้ด หอยโหละคั่วเกลือ ปลาเค็มทอด และของหวาน

สัตว์ป่าหายาก

ขณะอิ่มอร่อยกับเมนูต่างๆ แพก็จะล่องชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ ท่ามกลางอากาศที่แสนบริสุทธิ์ และบางครั้งอาจโชคดีได้เห็นโลมาสีชมพู หรือฝูงลิงแสมอีกด้วย

ขากลับเส้นทางท่าดินแดง นักท่องเที่ยวยังได้เที่ยวชมสะพานวอล์คเวย์ ซึ่งมีลักษณะยื่นลงสู่คลองหินลูกช้าง ระยะทาง 200 เมตร บริเวณสองข้างทางตลอดแนวจะมีต้นโกงกางน้อยใหญ่ ให้ผู้สนใจศึกษาด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น

ด้วยความหลากหลายของสภาพความเป็นธรรมชาติ ที่นี่ จึงทำให้บริเวณหินลูกช้าง กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ของ อ.หาดสำราญอย่างรวดเร็ว จนมีกรุ๊ปนักศึกษา ข้าราชการ นักอนุรักษ์ และนักท่องเที่ยว เดินทางมาเยือน และศึกษาดูงานอย่างไม่ขาดสาย

มุมสวยงาม

คณะกรรมการกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านทุ่งกอ กำหนดค่าใช้จ่ายหัวละ 150-300 บาท ในการล่องเรือล่องแพเที่ยวชม พร้อมอาหารเที่ยง 1 มื้อ โดยราคาขึ้นอยู่กับเมนูทะเลพื้นบ้านสดๆ ในทริปนั้น และใช้เวลาเที่ยวชมประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือ 08.00-12.00 น.

แน่นอนว่านักท่องเที่ยวจะได้ทั้งความ สนุกสนาน ตื่นเต้น ประทับใจ รวมทั้งอิ่มท้องกลับบ้านไปด้วยแบบครบเครื่อง สมกับคำขวัญของประจำชุมชนที่ว่า “เที่ยวสะพานวอล์คเวย์ ชมเสน่ห์ป่าโกงกาง ดำน้ำดูสาหร่ายขนนก หนึ่งมรดกหินลูกช้าง 140 ล้านปี”

ชมความสวยงาม

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ นายชัยศักดิ์ ศรีรัตนะ ประธานกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านทุ่งกอ หรือผู้ใหญ่เรียว-นายปิยะพงษ์ ใจตรง หมายเลขโทรศัพท์ 08-4626-1696

ข่าวสด หลาก&หลาย โดย เมธี เมืองแก้ว