กำหนดไว้ทุกข์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน รวมทั้งงดงานรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน ขณะที่นายกฯ ออกรวมการเฉพาะกิจ ขอให้ประชาชนฟังข่าวสารจากรัฐบาล อย่าเชื่อข่าวลือที่ไม่มีที่มา พร้อมตั้งศูนย์เตรียมงานพระบรมศพอย่างสมพระ เกียรติยศ ตามกฎหมายและราชประเพณี และช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ไม่ให้ใครฉวยโอกาสสร้างความขัดแย้งได้

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ระบุว่า การ เตรียมงานพระ บรมศพในส่วนของรัฐบาล และประชาชนให้สมพระเกียรติยศ และสมกับความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทย ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวในพระบรมโกศ ทั้งนี้การดำเนินการ ทั้ง 2 ประการนี้ รัฐบาลจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะต่อไป ในช่วงเวลาต่อจากนี้ไปเป็น ช่วงเวลาที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และราชประเพณี รัฐบาลจึงขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลาย รับฟังข่าวสารอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการอย่าเชื่อข่าวที่ลือที่ไม่ปรากฏแหล่งอ้างอิง

พร้อมกันนี้รัฐบาลขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านแต่งกายถวายความอาลัย เป็นเวลา 1 ปี สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสา เป็น เวลา 30 วัน และทุกภาคส่วน ควรพิจารณางดการจัดงานรื่นเริงต่างๆ เป็นเวลา 30 วัน

ทั้งนี้ท่านทั้งหลายอาจเข้าร่วมพิธีหรือจัดกิจกรรมทางศาสนาของตน ถวายเป็นพระราชกุศล หรือ จัดเป็นพระบรมราชานุสรณ์ อีกทั้งควรใช้ โอกาสนี้ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพราะเราทุกคนต่างก็มีหัวอกเดียวกัน เพราะมีพ่อของแผ่นดินร่วมกัน และโปรดช่วยกันรักษาความสงบเรียบ ร้อยของบ้านเมือง มิให้ผู้ใดฉวยโอกาสแทรกเข้ามาก่อความขัดแย้ง จนกลายเป็นความวุ่นวาย

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ฝ่ายอาคารและสถานที่ทำเนียบรัฐบาล ได้จัดเตรียมสถานที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ เป็นศูนย์ประสานงานในภารกิจต่างๆ ทั้งในส่วนของทำเนียบรัฐบาล เรื่องของพิธีการและการรักษาความปลอดภัยในกรณีที่จำเป็นต้องมีการ ประชุมต่างๆ

วันเดียวกันราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสำนัก พระราชวัง เรื่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคตลง ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 นั้น รัฐบาลได้รับทราบด้วยความโทมนัสอย่างยิ่ง จึงเห็นสมควรประกาศดังต่อไปนี้

1.ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป

2.ให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองสารนิเทศ ตร. แจ้งยกเลิกการจัดงานเลี้ยงรับรอง เนื่องในวันตำรวจ 13 ต.ค. ประจำปี พ.ศ.2559 ซึ่งตามกำหนด การจะมีงานเลี้ยงรับรองวันตำรวจขึ้นตั้งแต่เวลา 18.30 น. วันนี้ ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แต่ขณะนี้ได้แจ้งยกเลิกการจัดงานดังกล่าวแล้ว

นอกจากนี้ ตร.แจ้งเลื่อนการประชุมมอบนโยบายบริหารราชการ ตร. ที่กำหนดขึ้นในวันที่ 15 ต.ค. ออกไปก่อนด้วย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ออกประกาศเรื่อง เลื่อนกำหนดวันรับพระราชทานประกาศนียบัตรเนติบัณฑิต สมัยที่ 68 และการซ้อมใหญ่ โดยระบุว่า ตามที่จะมีพิธีซ้อมใหญ่พิธีรับพระราชทานประกาศนียบัตร และวันอบรมหลักสูตรภาคจริยธรรมระหว่างวันที่ 29-31 ต.ค.
โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนกำหนดวันรับพระราชทานประกาศนียบัตรเนติ บัณฑิต สมัยที่ 68 และวันซ้อมใหญ่ วันที่ 29 และ 31 ต.ค. ออกไปจนกว่าจะมีกำหนดการใหม่ ส่วนกำหนดวันอบรมยังคงให้เป็นไปตามเดิม

ขณะที่การแสดงละครเวที “ม่านประเพณี ประกาศิต อาญาสวรรค์” ที่เอ็มเธียเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ รอบ 19.30 น. ก็สั่งยกเลิก พร้อมให้ติดต่อ รับเงินคืนได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น. ทางกองกำลังรักษาความสงบ(กกล.รส.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งเป็นผู้ช่วยพนักงานตำรวจลงพื้นที่ ตามซอยและแยกต่างๆ รวมถึงพื้นที่เสี่ยงที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญทั่วกรุงเทพ มหานคร รวมถึงสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง โดยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ลงไป อีก เพื่อป้องกันระวังเหตุการณ์มือที่ 3 อาจจะมาก่อความวุ่นวาย

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาแห่งชาติ(กสทช.) แจ้งว่า คณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) มีมติในการประชุม ครั้งพิเศษที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 มีมติกำหนดแนวปฏิบัติ สำหรับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กรณีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามา ธิบดี จักรี นฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ดังนี้

1.การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคต ผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีโทรทัศน์ ในระบบภาคพื้นดิน ระบบดาวเทียม และ ระบบอื่นใด ให้ถือปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อปฏิบัติของสำนักพระราชวังโดยเคร่งครัด

2.การถ่ายทอดภาพหรือเสียงเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคต และงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรา มาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามิน ทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตให้เชื่อมโยงสัญญาณโดยตรงจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศ ไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย โดยมิให้นำเอาภาพและเสียงไปออกอากาศซ้ำเว้นแต่จะได้รับอนุญาต

3.การเผยแพร่รายการต่างๆ ของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีโทรทัศน์ ให้งดการเผยแพร่รายการที่แสดงถึงความรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน และขอ ให้คำนึงถึงความเหมาะสม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและ ร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์และกสทช.หารือ ทำความเข้าใจในการออก อากาศรายการ ให้เกี่ยวสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 30 วัน สลับหมุนเวียนกันไป โดยในวันที่ 14 ต.ค.ให้ดึงสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่องเอ็นบีที สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โมเดิร์นไนน์ทีวี สถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และเวียนกลับมาที่ช่องเอ็นบีที โดยระหว่างนี้ขอความร่วมมือให้กสทช.ย้ำเตือนให้สถานี โทรทัศน์ทุกช่องปฏิบัติตามคำสั่งตามช่วงระยะดังกล่าว และต้องขอความร่วมมือสื่อออนไลน์ และเฟซบุ๊กไลฟ์การนำเสนอข้อมูลต่างๆ ในช่วงเวลานี้

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการสนับสนุนให้บรรยากาศโดยรวมของ ประเทศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยสูงสุด รองรับการดำเนินการงานสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะการดำเนินพระราชพิธีสำคัญตามราช ประเพณีของประเทศ คสช.มีความจำเป็นที่จะจัดเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัยเฝ้าระวังเพิ่มเติมให้ตามจุดและพื้นที่สำคัญๆ ต่างๆ ของประเทศ เพื่อให้ภารกิจสำคัญๆ ของรัฐในช่วงนี้ได้ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงจะคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในทุกด้าน

“ขอให้พี่น้องประชาชน ได้ร่วมกันให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานเจ้าหน้าที่ และหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ อันดูไม่เหมาะสมกับ บรรยากาศ และขอความกรุณาได้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าวสาร พร้อมติดตามความคืบหน้าเรื่องสำคัญๆ ได้จากรัฐบาล หรือหน่วยราชการ ที่จะได้แจ้งให้ทราบออกมาเป็นระยะๆ ต่อไป” พ.อ.วินธัยกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน