หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้วางนโยบายให้ภาคเอกชนร่วมลงขันเพื่อซื้อสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย เป็นเจ้าภาพระหว่าง 14 มิ.ย. – 15 ก.ค. โดยมีบริษัทเข้าร่วมทั้งสิ้น 9 แห่งประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด

จากนั้นเมื่อ 8 มิ.ย.ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดช่องที่ถ่ายทอดสดประกอบด้วย ทรูโฟร์ยู, อมรินทร์ทีวี และททบ.5 โดยเบื้องต้นได้กำหนดวันเวลาที่ถ่ายทอดสดเอาไว้แล้วเพียงแต่ยังมีบางคู่บางเวลาที่ถ่ายทอดสดซ้ำกัน และ “บิ๊กเสือ”นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยืนยันว่าทุกอย่างจะลงตัวหลังจากทั้ง 3 ช่องพูดคุยกันเพิ่มเติมเพื่อเกลี่ยเวลาและคู่ถ่ายทอดสดไม่ให้ซ้ำซ้อนกันแล้วเสร็จ

อย่างไรก็ดีจนถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 4 วันจะถึงพิธีเปิดและคู่เปิดสนามฟุตบอลโลก 2018 แต่ประชาชนยังไม่ทราบโปรแกรมว่าช่องใดถ่ายคู่ไหน และเวลาเท่าไหร่ทำให้มีปฏิกิริยาต่อว่าอย่างกว้างขวางในหมู่แฟนบอล และโลกโซเชียล

เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยกันเบื้องต้นเกี่ยวกับกรณีถ่ายทอดสดซ้ำซ้อนกันนั้นช่องทรูโฟร์ยู และอมรินทร์ทีวี ได้ยอมรับตามตารางเวลาที่ออกมา จึงได้ส่งเอกสารการถ่ายทอดสดดังกล่าวส่งต่อให้กับททบ.5 เพื่อรับทราบและลงนามตั้งแต่เมื่อ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีการที่ยังไม่สามารถแจ้งโปรแกรมให้ประชาชนรับทราบได้อาจเป็นเพราะยังติดช่วงวันหยุดราชการ (เสาร์-อาทิตย์) ดังนั้นต้องรอความชัดเจนและการตอบรับจากททบ.5 ว่าเห็นด้วยกับโปรแกรมดังกล่าวหรือไม่ โดยคาดว่าเมื่อเข้าสู่เวลาราชการจะได้คำตอบที่ชัดเจนและประกาศวันเวลา รวมถึงช่องถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน