เกมฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในโลกมนุษย์ หลายคนใฝ่ฝันจะมีส่วนร่วมกับเกมบนพื้นหญ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นนักเตะอาชีพที่โด่งดัง เล่นกับสโมสรระดับโลก
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ หนุ่มน้อยวัย 21 ปี ดาวยิง “อินทรีมรกต”ไนจีเรีย คือ 1 ในคนกลุ่มนี้ แต่เส้นทางชีวิตของเขาใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อ เจมส์ คุณพ่อแท้ๆ เคยต่อต้านการที่ลูกชายเลือกเล่นฟุตบอลอย่างหนัก ถึงขนาดตีด้วยเข็มขัดเมื่อรู้ว่าลูกชายพยายามเล่นเกมลูกหนัง โดยชี้เป้าว่าให้ใส่ใจกับการเรียนหนังสือเป็นหลัก แต่ในที่สุดคุณพ่อต้องยอมเมื่อครูที่โรงเรียนได้มาเยี่ยมที่บ้านย่าน โอบอกเว พร้อมกับประกาศว่า อิเฮียนาโช่ ได้ติดทีมลงเล่นในระดับภูมิภาค
“มันเป็นเรื่องน่าตลกที่ตอนนี้พ่อเป็นแฟนตัวยงของผม ทั้งที่เมื่อก่อนผมจะโดนตีทุกครั้งที่ก้าวออกจากบ้านเพื่อไปเล่นฟุตบอล” ดาวยิงตัวความหวังของไนจีเรียในฟุตบอลโลก 2018 กล่าว
“ผมจะต้องถูกตีเสมอด้วยเข็มขัดของพ่อหรืออย่างอื่นที่เขาหาได้ในตอนนั้น บางครั้งผมได้แต่หัวเราะให้กับตัวเอง แต่ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงขีดเส้นทางชีวิตของผมเอาไว้แล้ว เพียงแต่พระองค์ได้แค่มองดูเท่านั้น”
อย่างไรก็ดี ดาวยิงจาก “จิ้งจอกสยาม”เลสเตอร์ ซิตี้ ยังมีคุณแม่ เมอร์ซีย์ ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีในการเล่นฟุตบอลแม้ว่าเธอจะจากโลกไปอย่างรวดเร็วทั้งที่ อิเฮียนาโช่ เพิ่งย่างเข้าสู่วัยรุ่น หลังจากที่ อิเฮียนาโช่ เพิ่งพาไนจีเรียคว้าแชมป์เยาวชนไม่เกิน 17 ปีทวีปแอฟริกา ที่โมร็อกโก เมื่อปี 2013 แน่นอนดาวเตะร่างบางเชื่อว่าคุณแม่ยังคงเฝ้ามองดูเขาอยู่บนสวรรค์ และเขามุ่งมั่นที่จะทำประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้เพื่อมอบให้กับคุณแม่ผู้แสนดี
“มันทำให้ผมรู้สึกเศร้าที่แม่ไม่ได้อยู่กับผมในรัสเซีย ความตายเป็นความโหดร้ายของผม แต่ชีวิตทำให้ผมมีโอกาสที่จะทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจ บางครั้งผมต้องการวิธีส่งข้อความไปยังสรวงสวรรค์เพื่อบอกกับแม่ว่าผมไม่มีวันลืมสิ่งที่แม่เคยสนับสนุนผมมาตลอด ทุกครั้งที่ผมทำประตูได้ผมจะอุทิศมันให้กับแม่ และชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อขอบคุณแม่รวมถึงพระเจ้าผู้มอบทุกอย่างให้กับผม”
“อย่างไรก็ดีฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นเป็นทีม เป้าหมายของทีมอยู่เหนือความต้องการของส่วนบุคคล ผมต้องทำเพื่อทีมเป็นอย่างแรก แต่ในฐานะกองหน้าคุณต้องมองหาโอกาสที่จะทำประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ หากทำสำเร็จผมจะยกให้กับเพื่อนร่วมทีมทุกคนรวมถึงคุณแม่ผมด้วย แม่เป็นคนเดียวที่คอยสนับสนุนผมเล่นฟุตบอลตั้งแต่เริ่มต้น แม่เชื่อในตัวผม และมีบางอย่างที่ทำให้ผมเชื่อว่าแม่กำลังดูผมอยู่จากข้างบนพร้อมทั้งปรบมือแสดงความยินดี”
ชีวิตลูกหนังของ อิเฮียนาโช่ พุ่งพรวดอย่างรวดเร็วจากการรางวัลนักเตะทรงคุณค่า (เอ็มวีพี) ในฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นไม่เกิน 17 ปี ก่อนที่ “เรือใบสีฟ้า”แมนฯ ซิตี้ จะจับเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมเมื่อปี 2014 ตามด้วยย้ายไปอยู่กับเลสเตอร์ ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์เมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ทำผลงานยิงไป 10 ประตูจากการลงสนามทุกรายการ 34 เกมทั้งกับสโมสรและทีมชาติแม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บที่เท้าก็ตาม ตอนนี้เขาพร้อมจะแสดงความสามารถออกมาในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
“ตอนที่ผมเล่นให้ทีมชาติไนจีเรีย รุ่นไม่เกิน 13 ปี (เมื่อ 8 ปีที่แล้ว) ซานี ลูลู ประธานสหพันฟุตบอลไนจีเรียได้บอกกับพวกเราว่าเราจะไปฟุตบอลโลก 2018 และตอนนี้พวกเราทำได้ ผมอยู่ที่นี่ที่รัสเซีย มันเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกของผม ผมทำเป้าหมายในอาชีพของผมได้สำเร็จ ตอนผมเล่นรุ่น 17 และ 20 ปี ให้กับไนจีเรียในทัวร์นาเมนต์ของฟีฟ่ามีบางคนบอกผมว่าตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อนว่าผมควรได้เล่นฟุตบอลโลก ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกด้วยซ้ำ”
อย่างไรก็ดีใช่ว่าเส้นทางบนฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายครั้งนี้ ไนจีเรีย จะเจอกับงานง่ายเมื่อโดนจับไปอยู่กลุ่มดี ร่วมกับ ไอซ์แลนด์ อาร์เจนตินา และ โครเอเชีย แม้ว่าจะเคยเอาชนะอาร์เจนตินา 4-2 เมื่อปลายปีทีแล้วรวมถึงอุ่นเครื่องชนะอังกฤษเมื่อเดือนที่ผ่านมาก็ตาม
“ทุกคนบอกว่า ลิโอเนล เมสซี คือผู้ที่สร้างแตกต่างของเกมให้กับอาร์เจนตินา แต่เรายังไม่เจอกันทันที ไนจีเรีย จะเล่นสองเกมสำคัญกับโครเอเชีย และไอซ์แลนด์ ดังนั้นอาร์เจนตินาสามารถรอได้ พวกเราถูกวิจารณ์เป็นอย่างมากจากผลงานการอุ่นเครื่องที่ผ่านมา แต่แฟนบอลของเรารู้ดีว่าเราได้อะไรกลับมาบ้างจากการอุ่นเครื่องเหล่านั้น เราอาจมีช่วงเวลาไม่ดีบ้าง แต่ไนจีเรียเป็นทีมพลังหนุ่มที่มีความคิดเชิงบวกเสมอ คุณมาที่นี่ต้องมาเพื่อทำให้ทีมประสบความสำเร็จไม่ใช่มาเพื่อซึมซับบรรยากาศฟุตบอลโลกแล้วรอวันกลับบ้าน”
นอกจากนี้ อิเฮียนาโช่ ยังกล่าวถึงกระแสฟีเวอร์ของเสื้อแข่งทีมชาติไนจีเรียที่ได้รับความนิยมอย่างมากมียอดจองกว่า 3 ล้านตัว และเสื้อที่ผลิตออกมาถูกขายหมดเกลี้ยงร้านในเวลาอันรวดเร็ว
“ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกถามและขอเสื้อแข่ง เพื่อบางคนถึงขนาดบอกกับผมว่าอย่าแลกเสื้อในฟุตบอลโลกครั้งนี้เชียว” สตาร์ดังอินทรีมรกต กล่าวปิดท้าย
