หลังจากที่ไนกี้ แบรนด์สื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ผู้สนับสนุกหลักทีมชาติอิหร่านประกาศไม่ส่งรองเท้าและอุปกรณ์ให้ อิหร่าน ในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ บราซิล เนื่องจากการประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้เกมฟุตบอลโลก รอบแรกกลุ่มบี เมื่อ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นักเตะอิหร่านต้องควักเงินส่วนตัวซื้อรองเท้าตัวเองรวมถึงยืมจากผู้เล่นคนอื่นในการลงสนามกับโมร็อกโก

เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน สหรัฐฯ และอีก 5 มหาอำนาจของโลกอย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย และเยอรมนี พร้อมกับหันมาใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับอิหร่านอีกครั้งหลังจากเพิ่งยกเลิกคว่ำบาตรไปเมื่อปี 2015 ทำให้ไนกี้ต้องยกเลิกการส่งรองเท้าและเสื้อผ้าให้กับทีมชาติอิหร่านไปโดยปริยายรวมถึงบริษัทกีฬารายอื่นๆ ต่างระงับการให้การสนับสนุนอิหร่านด้วย

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ มาซูด โชนาอี, รามีน เรซาเอียน และ ซาร์ดาร์ อัซมูน 3 ผู้เล่น 11 ตัวจริงของอิหร่านต้องหาซื้อรองเท้าจากร้านค้าในประเทศรัสเซียเพื่อใส่ลงสนามแทน โดยทีมชาติอิหร่านออกประกาศผ่านอีเอสพีเอ็นสื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ว่าการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่านเป็นเหตุให้ไนกี้ไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ให้กับอิหร่านในเวลานี้ได้ และการลงโทษดังกล่าวของสหรัฐมีผลบังคับใช้กับไนกี้ตามกฎหมายด้วย

ด้าน คาร์ลอส เคยรอซ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสของอิหร่านกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับนักเตะของตน ไนกี้ควรเตรียมพร้อมให้มากกว่านี้เพื่อให้นักเตะได้เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ใหญ่ด้วยอุปกรณ์ที่คุ้นเคย

“นักกีฬาควรที่จะได้ใช้อุปกรณ์ของตัวเองไม่สมควรจะต้องมาเปลี่ยนอุปกรณ์ก่อนการแข่งขันใหญ่เพียง 1 สัปดาห์ พวกเขา (ไนกี้) ควรออกมาแสดงความเสียใจและขอโทษกับการกระทำที่หยิ่งยโสต่อผู้ชายทั้ง 23 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไร้สาระและไม่มีความจำเป็นต้องเจอเรื่องแบบนี้ พวกเราเป็นผู้จัดการทีมและนักฟุตบอลไม่สมควรมีส่วนรับผิดกับเรื่องของการเมืองที่เกิดขึ้น เราได้ขอร้องให้ฟีฟ่าเข้ามาช่วยเหลือในขณะที่ยังไม่สามารถคุยอะไรกับทางไนกี้ได้”

ในส่วนของชุดแข่งทีมชาติอิหร่านนั้นมีอาดิดาส แบรนด์คู่แข่งสำคัญของไนกี้ แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการโดยชุดดังกล่าวถูกขายให้สหพันธ์ฟุตบอลอิหร่านและไม่ใช่ข้อตกลงที่ทำขึ้น โดยจากการกระทำของไนกี้ตามกฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทำให้ชาวอิหร่านหลายคนมีการต่อต้านสินค้าของไนกี้ด้วยการรณรงค์งดใช้ผลิตภัณฑ์ไนกี้พร้อมติดแฮชแท็ก โนทูไนกี้ ด้วย

โดยนัดแรกฟุตบอลโลกกับโมร็อกโกเมื่อกลางดึกวันศุกร์ที่ผ่านมา 11 ตัวจริงของอิหร่าน มีนักเตะถึง 6 คนที่ต้องสวมรองเท้าไนกี้ ประกอบด้วย รามีน เรซาเอียน, อลิเรซา ยาฮันบัก, โมฮัมหมัด เอซาโตลาฮี, วาฮิด โมฮามาดี, มิลัด โมฮามาดี และ อัชคาน เดจากาห์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน