ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันที่ 6 ก.ค. ที่นิจนี นอฟโกรอด สเตเดียม “จอมโหด”อุรุกวัย ชาติจากอเมริกาใต้ ลงสนามพบ “ตราไก่”ฝรั่งเศส ตัวแทนจากทวีปยุโรป เกมนี้ ออสการ์ ตาบาเรซ กุนซืออุรุกวัย ส่ง หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงจากบาร์เซโลนา ในลา ลีกา สเปน ลงเป็นตัวหลัก ขณะที่ เอดิสัน คาวานี ดาวยิงตัวหลักได้รับบาดเจ็บไม่มีชื่อเป็นตัวจริง ด้าน ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือตราไก่ ส่งตัวหลักทั้ง คิลิย็อง เอ็มบัปเป, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ รวมถึง อ็องตวน กรีซมันน์ ลงสนามเป็นตัวจริง
สำหรับรายชื่อ 11 ตัวจริงทั้งสองทีมประกอบด้วย
อุรุกวัย : เฟร์นานโด มุสเลรา (ผู้รักษาประตู), โฮเซ มาเรีย คิเมเนซ, ดิเอโก โกดิน, โรดริโก เบนตันกูร์, นาอิตัน นานเดซ, หลุยส์ ซัวเรซ, คริสเตียน สตูอานี, ลูกัส ตอร์เรรา, มาติอัส เบซิโน, ดิเอโก ลาซัลต์, มาร์ติน กาเซเรส
ฝรั่งเศส : อูโก โยริส (ผู้รักษาประตู), แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาเอล วาราน, ซามูเอล อุมติตี, ปอล ป๊อกบา, อ็องตวน กรีซมันน์, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, คีลิย็อง เอ็มบัปเป, โกร็องแต็ง โตลิสโซ, เอ็นโกโล ก็องเต, ลูกาส์ เอร์น็องเดซ
REUTERS/Grigory Dukor
REUTERS/Damir Sagolj
เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดหน้าเข้าหากันทีแต่อุรุกวัยได้ลุ้นก่อนถึง 2 ครั้งติดขาดเพียงความเฉียบคมเท่านั้น โดยเกมส่วนใหญ่ทั้งสองทีมพยายามตัดบอลตั้งแต่กลางสนามเพื่อให้คู่แข่งเข้าพื้นที่อันตรายหน้าปากประตูทำให้ผ่าน 15 นาทียังไม่จังหวะหวาดเสียวมากเท่าไหร่นัก
REUTERS/Damir Sagolj
เข้าสู่นาที 33 ลูการ์ เอร์น็องเดซ แบ๊กซ้ายฝรั่งเศสโดนใบเหลืองคนแรกของเกมจากการเจตนาดึง นาอิตัน นานเดซ เพื่อตัดเกม นาที 38 โรดริโก เบนตันกูร์ ของอุรุกวัยโดนใบเหลืองบ้างจากการทำฟาวล์ โกร็องแต็ง โตลิสโซ จากจังหวะต่อเนื่อง อ็องตวน กรีซมันน์ เปิดเข้ากลางให้ราฟาเอล วาราน เติมขึ้นมาโหม่งเสียบเสาสองให้ฝรั่งเศสขึ้นนำ 1-0 ในนาที 40
นาที 44 อุรุกวัย เกือบได้ประตูตีเสมอจากการโหม่งเผาขนของ มาร์ติน กาเซเรส แต่อูโก โยริส ผู้รักษาประตูฝรั่งเศสพุ่งปัดได้ทัน แม้ว่า ดิเอโก โกดิน จะตามเข้าซ้ำแต่ยิงไม่ดีบอลข้ามคานทำให้จบ 45 นาทีแรกฝรั่งเศสยังนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังอุรุกวัยไม่มีทางเลือกต้องเปิดหน้าบุก แต่เกือบโดนฝรั่งเศสทิ้งห่างจากการที่ เฟร์นานโด มุสเรลา ผู้รักษาประตูเปิดบอลช้ายังดีที่จังหวะ อ็องตวน กรีซมันน์ เข้าบล็อกบอลไม่ตรงกรอบ
REUTERS/Jason Cairnduff
นาที 61 อุรุกวัย โดนโต้กลับเร็ว โกร็องแต็ง โตลิสโซ จ่ายให้ อ็องตวน กรีซมันน์ ตั้งป้อมซัดด้วยซ้ายบอลตรงตัว เฟร์นานโด มุสเรลา แต่ว่านายด่านทัพจอมโหดปัดบอลไม่ออกปลิ้นเข้าประตูส่งฝรั่งเศสนำห่าง 2-0
จากนั้นฝรั่งเศสครองบอลได้มากกว่าบีบให้อุรุกวัยต้องวิ่งไล่เพื่อแย่งบอลจนเข้า 5 นาทีสุดท้ายอุรุกวัยยังแทบไม่มีโอกาสลุ้นประตูให้เห็น ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกมอุรุกวัยแพ้ฝรั่งเศส 0-2 ส่งให้ฝรั่งเศสผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นทีมแรกรอเจอผู้ชนะระหว่าง บราซิล กับ เบลเยียม
